พรีวิว EinScan Pro 2X / 2X+

พรีวิว EinScan Pro 2X / 2X+
Packaging ดูดีขึ้น

EinScan Pro / Pro+ เป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมมากตัวหนึ่งในเมืองไทย เนื่องจากความสามารถหลากหลาย ใช้ง่าย ใช้กับขาตั้งกล้องก็ได้ ใช้แบบ Handheld ก็ได้ สำคัญที่สุดราคาไม่สูงหากเทียบกับยี่ห้ออื่นที่คุณภาพใกล้เคียงกัน  พย. 2019 ทางผู้ผลิต Shining3D เปิดตัว EinScan Pro 2x / 2x+ 2019 พัฒนาเครื่องให้ดูแน่นขึ้น วัสดุดูทนทานขึ้น Software พัฒนาให้ฉลาดขึ้น สแกนได้เร็วขึ้น

USB สีดำเป็น Dongle สำหรับ Solid Edge Shining3D

แกะกล่อง
กล่องและ Packaging ดูดีขึ้นอย่างมาก จาก EinScan Pro/ Pro+ ตัวเครื่องดูแน่นขึ้น วัสดุบางอย่างก็แตกต่าง เช่น สายไฟที่ดูเป็นจุดด้อยของรุ่นแรก (หากไม่ระวัง สายสัญญาณ จะเสียได้ง่ายดูบอบบาง) มาในรุ่น 2x ทำเป็นสายไฟ-สายสัญญาณทำติดกับเครื่องไปเลยถอดไม่ได้ ดูแข็งแรง ในส่วนวัสดุสัมผัสของด้ามจับทำออกมาเป็นยางมี texture เป็นจุดๆดูจับกระชับชับขึ้นเป็นต้น

ซ้าย EinScan Pro 2x
ขวา EinScan Pro

ข้อแตกต่าง จาก EinScan Pro รุ่นก่อน
1. วัสดุที่ใช้ งานประกอบดูดีขึ้น
2. เอาสายสัญญาณถอดเข้าออกได้ออก ทำเป็นสายยืดกับตัวเครื่องเลย ดูแข็งแรง แก้ปัญหสายหลวม
3. Software สแกนดีขึ้น สแกนได้เร็วขึ้น ใช้งานง่ายขึ้น
4. ราคารวม Solid Edge Shining3D มาเลย Software สามารถทำ Reverse Engineer ได้ (License มาในลักษณะ Dongle USB)

ด้านซ้ายเป็นเครื่อง Pro 2x สายสัญญาณสายไฟ ติดกับตัวเครื่องไปเลยแข็งแรงกว่า เทียบกับ Pro ถอดเข้าถอดออกบ่อยๆทำให้สายหลวมได้ง่ายๆ
Pro 2x ต่อส่วนขยายด้วย ช่อง USB ในขณะที่ Pro จะต้องใช้เครื่องมือไขและเสียงสายสัญญาณที่ตัวเครื่องอีกที

สรุปได้เบื้องต้น
ทางเรามองว่า EinScan Pro 2x  เหมือน Minor Change ของ EinScan Pro โดยตัวเครื่องดูดีขึ้น สแกนดูไวขึ้น มาจับรวมกับ Solid Edge Shining3D – สำหรับ Reverse Engineer

บทความนี้ยังไม่ได้โชว์ในส่วน Software อย่างติดตามกันต่อใน บทความต่อไปคับ

EinScan Pro 2X กับ 2X+ ต่างกันอย่างไร
1. เท่าที่ลองความละเอียดในการสแกนดูเท่าๆกัน แต่ต่างกันที่ความเร็วในการสแกน 2X สแกนต่อ Shot ได้ 225*170mm ในขณะที่ 2X ได้ 312*204mm
2. ตัว 2X+ จะสแกนได้เร็วกว่าค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในโหมด Rapid Scan

ส่วนต่อขยายของเครื่องสแกน
กรณีใช้คู่ กับ Turntable (จำหน่ายแยก)