พิมพ์โมเดล Gundam ยังไงให้แกะซัพพอร์ทออกง่าย งานไม่พัง

เมื่อไม่นานมานี้เห็นในกลุ่ม 3D Printer หลายๆคนมักเจอปัญหาที่ว่า พิมพ์โมเดลออกมาแล้ว งานไม่พิมพ์ไม่ติดบ้าง แกะยากบ้าง ซึ่งอันตารายมากเพราะหลายคนที่พิมพ์แล้ว
แกะงานยากส่วนใหญ่จะหาของมีคมมางัดหรือมาตัดเพื่อให้งานออกมาง่าย ซึ่งหลายต่อหลายคนก็เสียเหงื่อ เสียน้ำตาและเสียเลือดให้กับวิธีนั้นมาแล้ว
หรือบางคนงานแตก เนื่องจากตั้งค่าไม่ถูกต้อง วันนี้เราเอาตัวอย่างและเทคนิคเล็กน้อยมาให้ดูกัน เป็นการพิมพ์แล้วซัพพอร์ไม่กินตัวงานเลย
และแถมการแกะชิ้นงานออกจาก ซัพพอร์ และฐานพิมพ์ก็ง่ายอีกด้วย

การพิมพ์ครั้งนี้เราได้ดาวน์โหลดโมเดล มาจากเว็ปไซต์ Cults เป็นเว็ปไซต์โหลดโมเดลที่มีแจกฟรีและแบบมีค่าใช้จ่าย
โดยมีไฟล์ให้ดาวน์โหลดเยอะมากๆ ครั้งนี้เรายกตัวอย่างมาเป็นโมเดล GUNDAM ที่มีข้อต่อเยอะและสามารถขยับได้หลายท่าทาง
และเพื่อดูความเหนียวของเส้น PLA Matte เพราะเนื่องจากข้อต่อหลายๆจุดจำเป็นต้องอาศัยความเหนียวของเส้น ไม่อย่างนั้นงานจะ Fail
หรือแตกหักได้ พร้อมทั้งการพิมพ์ของเครื่อง Guider lls ที่เป็นเครื่องขนาดใหญ่ เนื่องจากมีการพิมพ์หลายส่วน

เริ่มต้นด้วยการ Slicer File ในโปรแกรม FlashPrint ซึ่งเป็นโปรแกรมของ Flashforge ซึ่งเครื่องยี่ห้ออื่นๆส่วนใหญ่จะต้องหา Slicer เพื่อมาทำงานเอง
โดยข้อดีของโปรแกรมนี้มี Auto Support ให้โดยที่ตัวโปรแกรมจะคำนวณให้เองว่าต้องใส่ซัพพอร์ทตรงไหนถึงจะปลอดภัย และสามารถแต่งส่วนอื่นๆได้ตามที่ต้องการได้เลย
และการพิมพ์จะมีการเลือกซัพพอร์ทคือ Linear และ Treelike โดย Linear เป็นซัพพอร์ทที่เป็นแท่งตรงขึ้นจาก Raft และ TreeLike เป็นแบบต้นไม้ที่เลื้อยขึ้นจาก Raft
ซึ่งเหมาะกับงานที่มีความเว้าความโค้งเยอะ เช่นงาน Art และจุดเข้าถึงยาก แต่ครั้งนี้ เราเลือกเป็น Linear ซึ่งเป็นแท่งตรง

และต่อมาเป็นการตั้งค่าให้ชิ้นงานหนาด้วย Infill โดยเลือกเป็น Fill Density จากของเดิม 15% เป็น 40 % เพื่อให้ชิ้นงานที่ออกมามีความหนา
และส่วนต่อมาเป็นส่วนสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจคือการตั้ง Top Solid Layer ซึ่งอยู่ในหมวดของ Support เป็นการปิดหัวของซัพพอร์ทเมื่อเวลาที่เครื่องพิมพ์ ซัพพอร์ทเสร็จแล้ว
ก่อนจะขึ้นที่การพิมพ์ที่ตัวงานให้พิมพ์เพิ่มอีกชั้นเพื่อให้ตัวงานห่างจากตัวซัพพอร์ท เพื่อเวลาแกะงาน ซัพพอร์ทจะไม่กินตัวงานเข้าไปด้วย ข้อดีของการทำแบบนี้คือเราจะไม่เสียเวลาในการขัดงาน
ในส่วนที่โดนซัพพอร์ทกินเข้าไป ซึ่งสามารถโชว์งานดิบได้เลย ส่วนที่เหลือให้ใช้เป็นค่า Deafalt ของเครื่อง แต่หากถามว่างานโอกาส Fail ไหมก็ต้องบอกว่ามีโอกาสอยู่เช่นกัน

การพิมพ์ใช้เวลาไปทั้งหมด 40 ชั่วโมงเนื่องจากเป็นงานที่ใช้ความหนาของ Infill ถึง 40% และการเพิ่มของชั้น Top Solid Layer ทำให้เวลาเพิ่มเล็กน้อย
แต่การที่เวลาเพิ่มหรือการพิมพ์ทั้งวันทั้งคืน จะไม่ลำบาก เนื่องจากเครื่อง Guider lls มี Resume Print ต่อให้ไฟดับก็สามารถพิมพ์ต่อได้หรือการดูงานผ่านกล้องใน Polar Clound
ช่วยให้การพิมพ์สะดวกสะบายมากขึ้นไม่ใช่แค่ใหญ่แต่ยังใช้งานสะดวกสะบาย และหัวฉีด Hi Temp ที่สามารถทำความร้อนได้สูงถึง 300c ทำให้สามารถพิมพ์วัสดุได้หลายวัสดุ ตั้งแต่ CF-Carbon Fiber, PC-Polycarbonate, Nylon, PLA, ABSเป็นต้น
และหลายคนอาจจะสงสัยว่าการพิมพ์วัสดุได้มากขนาดนี้แล้วจะมีปัญหาเรื่องกลิ่นของวัสดุที่พิมพ์ไหม คำตอบคือไม่มี ต่อให้พิมพ์ในห้องปิดหรือห้องแอร์ก็สามารถพิมพ์ได้ซึ่งเครื่องอื่นๆการพิมพ์วัสดุขั้นสูง หรือเพียงแค่ ABS ธรรมดาๆ อาจจะต้องทำกล่องปิดกล่องครอบกันกลิ่นยุ่งยาก แต่สำหรับ Guider lls นั้นสบายมากไม่ต้องทำอะไรเลย เอาเส้นใส่เครื่องแล้วพิมพ์ได้เลย

จากภาพด้านบนจะเห็นว่าการแกะตัวงานออกจากซัพพอร์นั้นง่าย แค่ดันแค่บิดก็ออกแล้ว และชิ้นงานที่ได้ออกมาก็ยังเนียนสวย ไม่เป็นเงาสะท้อน และไม่โปรงแสงเห็นด้านใน
เพราะเราใช้เส้น PLA Matte เป็นเส้นสีด้านสนิท ที่ไม่สะท้อนเงาหรือโปร่งแสงเลย ต่อให้นำแสงมาจ่อที่โมเดลเลยก็ไม่มีการโปร่งหรือสะท้อนเงา การใช้เส้นนี้ไม่ได้มีดีแค่นั้น
แต่การที่ไม่สะท้อนเงาจะช่วยปกปิดชั้นเลเยอร์ของโมเดลได้ เนื่องจากเครื่องพิมพ์ระบบ FDM นั้นจะต้องมีชั้นเลเยอร์ให้เห็นเป็นเรื่องปกติ การใช้เส้นธรรมดาทั่วไปจะทำให้เกิดเงาและแสงสท้อน
ทำให้เห็นเลเยอร์ที่ชัดเจน และให้เห็นด้านในของโมเดลทำให้ดูไม่แข็งแรง และงานที่ออกมาไม่สวยงาม หลายๆโมเดลจำเป็นต้องนำไปขัด ไปแต่งสีเพิ่มเพื่อปิดร่องรอยนั้นนั่นเอง
แต่สำหรับเส้น PLA MATTE แล้วไม่ต้องนำไปขัดหรือแต่งเพิ่มเลย สามารถโชว์งานดิบ และ มีสีที่หลากหลายมากๆถึง 13 สี สามารถนำไปทำโมเดลสีๆสวยๆได้เลย

หลังจากประกอบเสร็จแล้วก็จัดท่าจัดทางเพื่อถ่ายรูปสวยๆ