5 แนวโน้มสำคัญของ Motion Capture ในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์

5 แนวโน้มสำคัญของ Motion Capture ในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์

จากกระแสการสร้างภาพยนต์ที่เหล่านักผลิตภาพยนต์ระดับโลก หันมาใช้งาน Motion Capture ในการถ่ายทำและสร้างสรรค์งานออกมาเป็นอุปกรณ์หลักนั้น ถือว่าเป็นตัวที่ช่วยในการกระตุ้นเทคโนโลยีนี้ ให้เข้ามามีบทบาทอย่างมาก ซึ่งหากเป็นอดีตก็คงจะเป็นเรื่องที่ยากพอสมควรที่จะจับต้องอุปกรณ์ดังกล่าว ทั้งความยุ่งยากในการทำงาน การปรับแต่งหลังจากถ่ายำ และที่สำคัญที่สุดคือราคาที่แพงสุด แต่สำหรับในปัจจุบันนั้น Motion Capture นั้นได้ถูกพัฒนาจากหลายผู้ผลิตทั้งในฝั่งยุโรป อเมริกา หรือในเอเชียเองก็มีบริษัทผู้ที่พัฒนา Motion Capture ขึ้นมาเช่นเดียวกัน ซึ่งในการแข่งขันในตลาดระดับสูงขนาดนี้ สิ่งที่ตามมาและคิดว่าเป็นผลดีต่อผู้ใช้งานคือ ต้นทุนที่ถูกลง การทำงานที่ง่ายขึ้น และฟังก์ชั่นที่จัดเต็มมากๆ วันนี้ Dfine จะพามาดูแนวโน้มหลักๆ ของ Motion Capture ที่จะมีผลต่ออุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ซึ่งจะมีอะไรบ้างเราไปติดตามกันเลยครับ

  1. ตัวช่วยงานภาพยนต์ สื่อบันเทิง และเกม
  2. ประหยัดเวลาในการทำงาน แสดงพร้อมเห็นผลลัพทันที
  3. เชื่อมต่อและส่งข้อมูลแบบอิสระ ไม่ติดขัดในฉากสำคัญ
  4. จับต้องได้เข้าถึงง่าย ทั้งราคาและการใช้งาน
  5. ผลลัพธ์เกินความคาดหวัง

1. ตัวช่วยงานภาพยนตร์ สื่อบันเทิง และเกม

สำหรับงานภาพยนต์แล้ว ถือว่าเป็นอะไรที่ต้องใช้ต้นทุนมหาศาลในการผลิต เพราะไม่ใช่แค่ค่าตัวนักแสดงเท่านั้นที่มีราคาสูง แต่ค่าใช้จ่ายในด้านเทคโนโลยี ทีมงาน สถานที่ก็มีค่าตอบแทนที่ต้องสูงตามกันไปด้วย และยิ่งภาพยนต์เรื่องนั้นใช้ระยะเวลาในการสร้างนานมากแค่ไหน เม็ดเงินที่ใช้ก็จะมากตามไปเป็นเงาตามตัวด้วยนั่นเอง  ซึ่งอย่างที่กล่าวไปในข้างต้นว่าเหล่าบรรดาผู้ผลิตภาพยนต์ นั้นหันมาให้ความสนใจกับเทคโนโลยีการผลิตกันมากขึ้น ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ Motion Capture ที่เป็นเหมือนผู้ช่วยคนสำคัญที่สามารถลดค่าใช้จ่ายในส่วนของเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย เพราะเราสามารถที่จะสร้างเครื่องแต่งกายของนักแสดงในคอมพิวเตอร์ได้และเชื่อมต่อกับการเคลื่อนไหวของนักแสดงได้ทันที

ขอบคุณภาพจาก : www.google.com

หรือในส่วนของการทำหน้าที่ของผู้รับบทสำรองเช่นในบางครั้ง นักแสดงหลักอาจจะไม่สะดวกในการเข้าฉากในบางฉากเราก็สามารถที่จะ copy ตัวของนักแสดงคนนั้นและให้ผู้รับบทสำรองแสดงท่าทางหรือบทของนักแสดงท่านนั้นแทนเลยก็สามารถทำได้เช่นกัน

ในส่วนของเกมส์นั้น ในปัจจุบันเราอาจจะคุ้นเคยกับการเล่นเกมส์ผ่าน สมาร์ทโฟน รีโมทบังคับ แต่ในขณะเหล่าผู้ผลิตก็ได้ทะยอยสร้างเกมส์ที่ต้องใช้ การแสดงท่าทางกันออกมาเยอะพอสมควรเช่นเกมส์ที่ต้องยิง ซอมบี้ ที่ต้องอาศัยการหันซ้าย ขวา หรือการมองไปรอบตัว เป็นต้น แต่ก็ยังไม่มีเกมส์ในูปแบบการต่อสู้ออกมาสู่ท้องตลาดที่ใช้ร่างการเป็นตัวบังคับสักเท่าไหร่ ลองคิดดูว่าถ้าเกมส์ชนิดนี้ออกมาจริงๆ น่าจะสร้างความสนุกสนานมากแค่ไหนจริงมั้ยครับ 555+

2. ประหยัดเวลาในการทำงาน แสดงพร้อมเห็นผลลัพทันที

ปกติแล้วการทำงานในรูปแบบ Motion Capture ที่ใช้เซ็นเซอร์ในการทำงานนนั้นจะต้องให้นักแสดงนั้นรับบทบาทและแสดงผ่านแต่ละฉากให้สำเร็จเสียก่อนจึงจะนำการเคลื่อนไหวนั้นไปเข้าระบบ เพื่อที่เชื่อมต่อกับตัวละครแต่ละตัวได้ จากนั้นผู้กำกับจะเป็นผู้ตรวจสอบภาพรวมของส่วนต่างๆ ว่ามีความเรียบร้อยดีหรือไม่ ซึ่งในบางครั้งอาจจะมีบางส่วนที่ยังไม่เรียบร้อย จึงจำเป็นต้องให้นักแสดงนั้นแสดงในส่วนนั้นซ้ำไปซ้ำมาจนงานอกมาดีที่สุด

แต่สำหรับในปัจจุบันนั้นเทคโนโลยี Motion Capture มีการพัฒนาและปรับปรุงระบบต่างๆ ให้มีความสามารถที่จะแสดงผลได้ทันที ซึ่งจุดนี้เองทำให้เวลาที่ใช้ในการทำงานนั้นลดลงอย่างเห็นได้ชัด และยังเป็นการช่วยในเรื่องของการประหยัดงบประมาณอีกด้วย

3. เชื่อมต่อและส่งข้อมูลแบบอิสระ ไม่ติดขัดในฉากสำคัญ

ถือเป็นสิ่งที่ลำคัญลำดับต้นๆ เลยก็ว่าได้ครับ สำหรับการทำงานของ Motion Capture เพราะในเทคโนโลยีปัจจุบันนั้น จะให้ความสำคัญกับการเคลื่อนไหวที่อิสระเป็นหลัก เพราะในระบบการบันทึกภาพแบบเดิมๆ นั้น จะค่อนข้างที่ขจะมีข้อจำกัดทั้งพื้นที่การแสดง เพราะต้องมีกล้องที่ช่วยในการจับภาพ จึงทำให้เหมือนเป็นการตีกรอบทางการแสดงนั่นเอง

ขอบคุณภาพจาก : www.rokoko.com

แต่สำหรับระบบปัจจุบันนั้นได้นำเอาเทคโนโลยีที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบันอย่าง WIFI เป็นตัวกลางในการส่งข้อมูลการเคลื่อนไหวหรือการอ้างอิงต่างๆ ทำให้ไม่ว่านักแสดงจะเดิน วิ่ง หรือแสดงไปในทางไหนก็ไม่มีหลุดเฟรมอย่างแน่นอน แต่ต้องขอแจ้งไว้นิดนึงนะครับว่า สัญญาณทั้งหมดขึ้นอยู่กับระบบอินเทอร์เน็ตของผู้ใช้งานด้วยนะครับทุกคน

4. จับต้องได้เข้าถึงง่าย ทั้งราคาและการใช้งาน

ถ้าพูดถึงเรื่องราคานั้นสบายใจได้เลยครับ ทุกวันนี้การแข่งขันในส่วนของตลาด Motion Capture นั้นถือว่าแข่งขันในตลาดที่ไม่ได้ใหญ่มากนัก ผู้ผลิตที่นำมาจำหน่ายก็ไม่ได้มีมากอย่างที่คิด ทำให้การตั้งราคาหรือว่าตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยส่วนใหญ่ผู้ปผลิตอุปกรณ์นั้น ก็จะเน้นไปที่ตลาด Studio House เป็นหลัก เพราะผู้ที่ทำงานกราฟฟิกแบบ Freelance มีมากในปัจจุบัน ปริมาณและกำลังในการสั่งซื้อก็จะมากตามไปด้วยนั่นเอง

5. ผลลัพธ์เกินความคาดหวัง

ลงทุนหลักแสน….ผลลัพธ์หลักล้าน คำนี้น่าจะใช้ได้จริงครับ เพราะในต้นทุนที่ลดลงมา แต่สามารถทำงานได้เทียบเท่า Production ของฮอลลีวูด ทั้งการแสดงที่สมบูรณ์ การเชื่อมต่อไปยังโปรแกรม 3มิติ ระดับมืออาชีพก็เป็นเครื่องการันตีได้แล้วว่าเทคโนโลยีในปัจจุบันนั้นคุ้มค่าคุ้มราคาแค่ไหน