AMS vs AMS 2 Pro เครื่องไหนน่าซื้อกว่ากัน

AMS vs AMS 2 Pro เครื่องไหนน่าซื้อกว่ากัน

หลังจากที่ Bambu Lab เปิดตัว H2D พร้อมกับ AMS 2 Pro ก็เป็นที่ฮือฮากับ AMS ที่สามารถอบเส้นพลาสติกได้พร้อมกันถึง 4 ม้วน ซึ่งก็เป็นฟีเจอร์หลักสำหรับการอัพเกรด AMS พร้อมด้วยฟีเจอร์อื่น ๆ อีกเช่นเปลี่ยนช่องใส่เส้นพลาสติกเป็นเซรามิค ทำให้มีความทนทานต่อการสึกหรอมากขึ้น เปลี่ยนมอเตอร์เป็นแบบไร้แปรงถ่าน ทำให้ป้อนเส้นได้เร็วขึ้น เข้าถึงท่อ PTFE ภายในได้ง่ายขึ้นช่วยให้การซ่อมบำรุงง่ายขึ้น และการปรับปรุงอะไรอีกหลายอย่าง แต่ก็มาพร้อมราคาที่สูงขึ้นด้วย เราจะมาดูว่ามันคุ้มไหมนะ

ลองมาดูเกี่ยวกับการเปรียบเทียบสเปคของทั้งสองรุ่นกันก่อน

AMS 2 Pro AMS
การพิมพ์
เส้นพลาสติกที่รองรับ: 

PLA, PETG, ABS, ASA, PET, PA, PC, PVA (ไม่ชื้น), BVOH (ไม่ชื้น), PP, POM, HIPS, Bambu PLA-CF/PAHT-CF/PETG-CF/Support for PLA/PETG, และ TPU for AMS

เส้นพลาสติกที่รองรับ: 

PLA, PETG, ABS, ASA, PET, PA, PC, PVA (ไม่ชื้น), BVOH (ไม่ชื้น), PP, POM, HIPS, Bambu PLA-CF/PAHT-CF/PETG-CF/Support for PLA/PETG, และ TPU for AMS

เส้นพลาสติกที่ไม่รองรับ: 

TPE, generic TPU, PVA (ชื้น), BVOH (ชื้น),Bambu PET-CF/TPU 95A, และเส้นพลาสติกที่ผสม carbon fiber หรือ glass fiber

เส้นพลาสติกที่ไม่รองรับ: 

TPE, generic TPU, PVA (ชื้น), BVOH (ชื้น),Bambu PET-CF/TPU 95A, และเส้นพลาสติกที่ผสม carbon fiber หรือ glass fiber

การระบุด้วย RFID: รองรับ การระบุด้วย RFID: รองรับ
ระบบอบแห้ง
อุณหภูมิสูงสุด: 65 °C อุณหภูมิสูงสุด: –
เส้นพลาสติกที่รองรับ: PLA, PETG, Support for PLA/PETG, ABS*, ASA*, PET*, PA*, PC*, PVA*, BVOH *, PP, POM*, HIPS*, Bambu PLA-CF*/ PAHT-CF*/ PETG-CF*, and TPU for AMS* เส้นพลาสติกที่รองรับ: ไม่รองรับ
การไล่ความชื้น: รองรับ การไล่ความชื้น: ไม่รองรับ
โหมดการหมุนระหว่างการอบแห้ง: รองรับ โหมดการหมุนระหว่างการอบแห้ง: ไม่รองรับ
กล่องปิดมิดชิด: รองรับ กล่องปิดมิดชิด: รองรับ
การตรวจสอบอุณหภูมิและความชื้น และการบำรุงรักษา: รองรับ

มีการแสดงผลอุณหภูมิและความชื้น ณ เวลาปัจจุบัน* บนหน้าจอ Bambu Studio, และ Bambu Handy.

การตรวจสอบอุณหภูมิและความชื้น และการบำรุงรักษา: รองรับ

มีการแสดงผลอุณหภูมิและความชื้น ณ เวลาปัจจุบัน* บนหน้าจอ Bambu Studio, และ Bambu Handy.

  1. เส้นพลาสติกที่มีเครื่องหมาย * ต้องการอุณหภูมิที่สูงกว่าที่ AMS 2 Pro จะทำได้เต็มที่ ขอแนะนำให้ใช้ AMS HT.
  2. จอภาพของ P1 Series ไม่รองรับการแสดงผล
เปรียบเทียบการเข้าถึงท่อนำเส้นเพื่อแก้ไขในกรณีที่มีเส้นหักค้างในท่อ AMS 2 Pro จะทำได้ง่ายกว่า
ช่องเสียบเส้นพลาสติกที่เปลี่ยนเป็นเซรามิค ทนการเสียดสีมากขึ้น

คำถามเกี่ยวกับ AMS 2 Pro ที่มักจะเจออยู่เสมอ

  1. จำเป็นต้องใช้อะแดปเตอร์แปลงไฟเพิ่มเติมอีกหรือไม่?
    ถ้าจะใช้ AMS 2 Pro ชุดเดียวในการพิมพ์และอบเส้น กับเครื่อง H2D ก็ไม่จำเป็นต้องต่ออะแดปเตอร์แปลงไฟ
    แต่ถ้าจะใช้มากกว่า 1 ชุดและใช้ในการอบด้วยก็จำเป็นต้องใช้อะแดปเตอร์แปลงไฟด้วยซึ่งต้องซื้อแยกต่างหาก
  2. X1C และ P1S สามารถใช้ AMS 2 Pro ได้หรือไม่?
    ใช้ได้ ในกรณีที่ใช้เฉพาะฟังก์ชันการป้อนเส้นอย่างเดียวไม่จำเป็นต้องใช้อะแดปเตอร์แปลงไฟเพิ่ม แต่ถ้าต้องการใช้ฟังก์ชันการอบเส้นด้วยก็ต้องซื้อเพิ่ม และจะใช้การอบเส้นได้ช่วงปลายเดือนกันยายน 2568 ผ่านการอัพเดท OTA พร้อมกับการรองรับเครื่อง A1/A1 mini ด้วย
  3. สามารถใช้ AMS และ AMS 2 Pro ในการพิมพ์พร้อมกันได้ไหม?
    ได้ คุณสามารถใช้ทั้งสองรุ่นพร้อมกันกับเครื่อง H2D
  4. สามารถอบเส้นพร้อมกันกับพิมพ์ไปด้วยได้หรือไม่?
    ณ เวลานี้ยังไม่รองรับ
  5. สามารถใช้ไฟจากเครื่องพิมพ์เพื่ออบเส้นได้หรือไม่?
    สำหรับเครื่อง H2D มันรองรับการอบได้ แต่หากต้องการใช้ AMS 2 Pro มากกว่า 1 เครื่องพร้อมกันก็ต้องใช้อะแดปเตอร์แปลงไฟเพิ่มด้วย
  6. AMS 2 Pro สามารถใช้การอบเส้นโดยไม่ต่อกับเครื่องพิมพ์ได้หรือไม่?
    ไม่ได้ ต้องต่อกับเครื่องพิมพ์เสมอ

สรุปสั้น ๆ

สำหรับเมืองไทยที่มีลักษณะอากาศร้อนชื้น ฟังก์ชันการอบนับว่าน่าใช้ แต่ด้วยข้อจำกัดที่ AMS 2 Pro การอบเส้นไม่สามารถทำไปพร้อมกับการพิมพ์ได้ จึงทำให้หลายคนอาจจะต้องคิดหนัก เพราะการอบแต่ละครั้งจะใช้เวลานานอย่างน้อย 6-12 ชั่วโมง หากใครพิมพ์งานเรื่อย ๆ ก็คงทำไม่ได้ และการอบเส้นก็ใช้อบได้เฉพาะ PLA และ PETG เท่านั้น เนื่องจากเครื่องมันทำอุณหภูมิได้สูงสุดเพียง 65°C เท่านั้น ไม่สามารถอบพวก ABS TPU PET PC PP etc. ดังนั้นหากต้องการเครื่องอบเส้นจริง ๆ ก็ซื้อแยกน่าจะดีกว่า หรือซื้อ AMS 2 Pro เป็นเครื่องตัวที่สองเพื่อใช้อบระหว่างที่ใช้เครื่องแรกพิมพ์งาน

ในส่วนของการป้อนเส้นพลาสติก ทั้งสองรุ่นทำได้ดีอยู่แล้ว AMS 2 Pro มีการปรับปรุงรายละเอียดในบางส่วนให้มีความเร็ว และทนทานมากขึ้น แต่เท่าที่ดูเป็นการแก้ไขจุดบกพร่องของรุ่นแรก ในเรื่องราคาก็ไม่ได้แพงมากขึ้นเท่าไหร่ ประมาณ 30$ และถ้าซื้อมาใช้เป็นตัวที่สองก็ต้องซื้ออะแดปเตอร์กับ Hub อีก 75$ ต่างหากด้วย

หวังว่าบทความนี้จะเป็นข้อมูลในการตัดสินใจซื้อ AMS ตัวใหม่นะครับ