คุณสมบัติเส้นพลาสติกแต่ละชนิด

คุณสมบัติเส้นพลาสติกแต่ละชนิด

สวัดดีครับพี่น้องชาว3D วันนี้ผมจะมาอธิบายคร่าวๆการเลือกวัสดุ Material หรือเส้นพลาสติกเลือกยังให้ให้เข้ากับงานของคุณ หรือบ้างคนอาจยังไม่เข้าใจคุณสมบัติของแต่ละวัสดุมีข้อดีข้อเสียอย่างไงและบ้างคนไม่รู้เลยว่าวัสดุนี้ทำมาจากอะไรอันตรายไหม เด๊่ยวเราไปดูกันเลยดีกว่าว่าเส้นชนิดไหนเหมาะกับงานของคุณ

ชนิดของเส้นหลักๆมีอะไรบ้าง  PLA / ABS /Elastic (TPU95A) / PETG / Carbon fiber /PC Polycarbonate

PLA

คุณสมบัติโดดเด่นของ พลาสติก PLA

  1. มีความใส (คล้ายแก้ว) มีความเงา จึงเหมาะสำหรับงานพวกโมเดล หรือ วัตถุที่ต้องการความเงา
  2. ที่พลาสติก PLA มีจุดหลอมเหลวอยู่ที่ 180-220 องศา จึงทำให้ขึ้นชิ้นงานได้คมและสวย สามารถเก็บรายละเอียดได้ดี อีกทั้งยังขึ้นรูปได้ง่ายและเย็นตัวเร็ว
  3. พลาสติก PLA นิยมนำมาผลิตเป็นบรรจุอาหาร เช่น กล่อง จาน ช้อน มีด ส้อม ตะเกียบ หลอด แก้วน้ำ แก้วกาแฟพร้อมฝา รวมถึงถุงหูหิ้ว ถุงใส่กลอง ฟิล์มห่อหุ้มอาหาร ใช้ทำเส้นใย สิ่งทอ ไหมเย็บแผล
  4. มีความแข็ง เนื่องจากคุณสมบัติคล้ายๆกับแก้ว คือ แข็ง จึงเหมาะกับชิ้นงานที่ต้องการความแข็ง แต่ต้องระวังให้ดีเนื่องจากไม่ทนต่อ การบิด และการดึง
  5. กลิ่นเป็นมิตร มีหล่อมละลายจะมีกลิ่นอ่อนๆ เนื่องจากเป็นส่วนประกอบจากธรรมชาติ กลิ่นจึงไม่เหมือนพลาสติกโดยทั่วไป
  6. ใช้งานง่ายกว่า ขึ้นรูปง่ายกว่า เนื่องจากจุดหลอมเหลวต่ำ และไม่ต้องใช้ แผ่นรองความร้อน ขึ้นรูปและเย็นตัวเร็วกว่า จึงเหมาะการใช้งานในโรงเรียน หรือ ตามบ้าน
  7. พลาสติก PLA สามารถย่อยสลายได้เร็ว ใช้เวลาน้อย เพียง 180 วันเท่านั้น ก็สามารถย่อยสลายได้หมด

พลาสติก PLA หรือ Polylactic Acid คือพลาสติกชีวิภาพ ที่มีการผลิตจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ส่วนประกอบข้าวโพด ธัญญาพืช มันสำปะหลัง และอ้อย และมีกระบวนการผลิตด้วยการหมัก

PLA เหมาะสำหรับงานที่ไม่ต้องตากแดด แต่ต้องการความแข็งแรง พิมพ์ง่ายไม่หดตัว และตอนพิมพ์ไม่มีกลิ่น สามารถพิมพ์กับ เครื่องปริ้น 3 มิติ ที่ไม่มีฐานทำความร้อนได้ สามารถพิมพ์งานได้เร็ว พิมพ์รายละเอียดงานได้คม แต่ข้อเสียคือ ขัดแต่งยากกว่า ABS ไม่สามารถทำผิวให้เงาได้เหมือน ABS ชิ้นงานแตกหักง่ายกว่า ABS เพราะขาดความหยืดหยุ่น

ABS

โครงสร้างของพลาสติก ABS

พลาสติก ABS นั้นเป็นพลาสติดที่สร้างขึ้นมาโดยนำโมโนเมอร์ 3 ชนิดมาผสมและทำปฎิกิริยากัน โดยโมโนเมอร์ทั้ง 3 ชนิดนั้น จะส่งผลต่อผลิตภัณฑ์ที่ผลิตออกมานั้นจะมีคุณสมบัติอย่างไร ดังนี้

  • สไตรีน (Styrene) : เป็นโมโนเมอร์ที่เมื่อผสมเข้าไปแล้วจะทำให้เนื้อพลาสติกมีความมันงา สวยงาม และยังทำให้สามารถแต่งตัดรูปได้ง่าย
  • อะคริไลไนโตรล์ (Acrylonitrile) : เป็นโมโนเมอร์ที่เมื่อผสมเข้าไปแล้วจะทำให้เนื้อพลาสติกมีความสามารถในการทนความร้อนและสารเคมี
  • โพลิบิวทาไดอีน (Polybutadiene) : เป็นโมโนเมอร์ที่เมื่อผสมเข้าไปแ้ลวจะทำให้เนื้อพลาสติกสามารถทนต่อแรงกระแทกได้มากขึ้น

คุณสมบัติที่สำคัญของ พลาสติก ABS

  1. แข็งแรงและยืดหยุ่น : จุดเด่นของพลาสติก ABS คือความแข็งแรง ยืดหยุ่น ทนต่อสภาพอากาศ ทนต่อแรงบีบ จึงเหมาะสำหรับการขึ้นรูป รวมถึงเครื่องพิมพ์ 3D
  2. ทนอุณหภูมิได้ดี : พลาสติก ABS นั้นมีจุดหลอมเหลวที่สูง ถึง 200°C ~ 250°C จึงทนความร้อนได้สูงกว่าพลาสติกชนิดอื่น แต่ก็เย็นตัวลงได้ช้ากว่าเช่นกัน
  3. มีความขุ่น : เมื่อทำการผสมสีเข้าไปในเนื้อพลาสติก จะทำให้สีของผลิตภัณฑ์ขุ่น ไม่โปร่งใส จึงไม่เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ต้องการความโปร่งใส
  4. ขึ้นรูป ตกแต่งได้ง่าย : จุดเด่นอีกข้อหนึ่งของพลาสติก ABS คือสามารถขึ้นรูปได้ง่าย

จุดด้อยของพลาสติก ABS

  1. หากต้องการความคมของเนื้อชิ้นงาน การเลือกใช้พลาสติกชนิด ABS จะไม่ค่อยเหมาะนัก เพราะพลาสติกชนิดนี้เย็นตัวลงได้ช้า มีความหนืด เมื่อฉีดขึ้นรูป อาจจะทำให้เหลือความโค้งมนเหลืออยู่ จึงไม่เหมาะสมกับงานที่ต้องการงานที่มีความคมของชิ้นงาน
  2. ด้วยพลาสติก ABS มีคุณสมบัติที่มีจุดหลอมเหลวได้สูง และเย็นตัวลงช้า ถ้าหากอุณหภูมิลดลงเร็วเกินไป ทำให้ตัวเนื้องานมีโอกาส หดตัว เสียรูป ได้
  3. มีกลิ่นเมื่อโดนความร้อน พลาสติก ABS จะส่งกลิ่นพลาสติกไหม้ออกมา แต่เมื่ออุณหภูมิลดลงกลิ่นก็จะลดลงเช่นกัน

ABSเหมาะกับงานอุตสาหกรรม  โดยคุณสมบัติข้างต้นทำให้ พลาสติก ABS เหมาะในงานขึ้นรูป ชิ้นงานที่ต้องใช้งานกลไก ข้อต่อ หรือ ชิ้นงานที่ต้องทนอแรงบีด ดึง และ เฉื่อน เช่น กำไรข้อมือ เหมาะงานด้าน Engineering และ Mechanics ลักษณะของแข็งกึ่งยาง และทนต่อสภาพแวดล้อม กรด อุณหภูมิ และแสงแดดได้ จึงสามารถใช้ได้ดีทั้งงานภายอกและภายในได้ ทั้งยังสามารถใช้งานได้

Elastic  TPU95A

คุณสมบัติเส้นพลาสติกElastic TPU95A

1. เส้นพลาสติก Elastic Flexible มีความยืดหยุ่นสูง ลักษณะคล้ายเส้นยางสังเคราะห์
2 .เม็ดพลาสติกเป็นเกรด TPU95A ซึ่งเป็นเกรดวัสดุคุณภาพสูง (Hardness) มีความแข็งแรงอย่างมาก ทนต่อแรงดึงได้ดี

3. Elastic มีการนำไปใช้งานหลากหลายทั้งในการแพทย์และ อุปกรณ์กีฬา ชิ้นส่วนรถยนต์ รวมถึงอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ
4. ในวงการชิ้นส่วนรถยนต์ มีการนำเอาวัสดุนี้ไปทำ ปลอกยางกันฝุ่น ปลอกพวงมาลัยและสิ่งที่รับแรงกระแทกหรือบีบรัด
5. บางธุรกิจนำไปทำเป็นรองเท้า ซึ่งสามารถทำได้ทั้งอัน

จุดด้อยพลาสติก Elastic (TPU95A

1. ปริ้นยาก

2. มีกลิ่น

3. ปริ้นนาน

PETG

คุณสมบัติเส้นพลาสติก PET/PETG

   1. ทนอุณหภูมิได้สูงกว่าเส้น PLA.

2. พิมพ์ง่าย ไม่หดตัว พิมพ์งานชิ้นใหญ่ได้

3. มีความเหนียวและแข็งแรง

4. ไม่มีกลิ่นเวลาพิมพ์

5. งานที่พิมพ์เสร็จ จะมีผิวที่มีความมันวาว

6. การเชื่อมต่อระหว่างชั้น หรือ Layer Bonding แข็งแรงมาก

PETG (Polyethylene terephthalate Glycol-modified) คือวัสดุที่ใช้ทำขวดน้ำ ขวดพลาสติก มีความเหนียวและทนทานเป็นเลิศ ไม่ฉีกขาดง่าย ความแข็งแรงเทียบเท่า ABS แต่ปริ๊นท์ง่ายเหมือน PLA มีสีใสกึ่งโปร่งแสง ดูสวยไปอีกแบบ เหมาะสำหรับใช้แทน PLA ในงานที่ต้องการความแข็งแรงและทนความร้อนสูง

Carbon fiber

คุณสมบัติเส้นพลาสติก Carbon fiber

คุณสมบัติของเส้นใยคาร์บอนคือ มีความแข็งแรงสูง ต้านทานแรงดึงสูง น้ำหนักเบา ทนต่อสารเคมีสูง ทนต่ออุณหภูมิสูง และอัตราการขยายตัวต่อความร้อนต่ำ

เหมาะกับงานอุตสาหกรรม

PC Polycarbonate

คุณสมบัติเส้นพลาสติกPC Polycarbonate 

         PC : Polycarbonate (โพลีคาร์บอเนต) เป็นพลาสติกที่มีคุณภาพสูง โปร่งใส มีความเหนียวแข็ง ทนความร้อน มีจุดเด่นที่น้ำหนักเบาที่สุด มีความยืดหยุ่นสูง สีจะมีความเงา เนื้อมันวาว เห็นแล้วสะดุดตา แต่มีความต้านทาน ต่อการขูดขีดต่ำ อาจเกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย เหมาะกับคนที่ชอบกระเป๋าน้ำหนักเบา สีสวยสดใส

เส้น PC (Polycarbonate) เป็นเส้นวัสดุที่แข็งแรง ทนความร้อนสูง ไม่หดตัว ไม่เสียรูปทรง
เหมาะสำหรับเครื่องที่มีระบบปิด ควบคุมอุณหภูมิได้ หลายธุรกิจเลือกใช้เนื่องจากสามารถใช้งานได้หลากหลาย แข็งแรง ทนทานกว่า ABS ทั่วไป
และยังราคาถูกกว่าท้องตลาด เนื่องจากเป็นแบรนด์ของคนไทยทำเอง

PC (Polycarbonate) เป็นพลาสติกวิศวกรรมที่ใช้ในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ วัสดุก่อสร้าง และงานที่เกี่ยวข้องกับความแข็งแรงสูงมากๆ

อุณหภูมิที่ต้องการ
Print Temperature : 240-260°C
Bed Temperature : 100-120°C

เป็นไงบ้างทุกคนเห็นไหมครับว่าแต่ละชนิดคุณสมบัติจะแตกต่างกันออกไป.เพราะว่าบ้างชนิดก็ไม่ได้เหมาะกับเราเสมอไปเราอาจต้องศึกษาดูนิดนึงว่าแบบไหนที่เหมาะกับเรา ขอให้บทความนี้เป็นแนวทางดีๆให้กับทุกคนนะครับ