15 ข้อควรรู้เกี่ยวกับ 3D Printer
- เครื่อง 3D Printer หรือเครื่องพิมพ์ 3มิติ มีหลักการทำงานเหมือนเครื่องพิมพ์2มิติทั่วไป เพียงแต่เป็นจากหมึก เป็นพลาสติกเท่านั้น
 - เรื่องที่ทำให้เครื่อง 3D Printer ดังเป็นพลุแตก คือ กรณีที่มี share โมเดลปืนที่ยิงได้จริง โดยเครืองตรวจจับโลหะไม่สามารถตรวจจับได้
 - Model ปืน 3มิติ ถูกดาวโหลดไปถึง 270,000 ครั้ง จนทำให้หน่วยงานรัฐที่สหรัฐอเมริกา ออกมาแบนเวบดังกล่าว หากโมเดลทั้งหมดที่ถูกดาวโหลดถูกนำไปพิมพ์เพียง 1 ชิ้น/1 ดาวโหลด ก็สามารถใช้ได้ทั้งกองทัพ
 - Model ที่ได้รับความสนใจอื่นๆ คือ เครื่องดนตรี ขลุ่ย กีตาร์
 - Case Iphone มีจำนวนโมเดลถูกดาวโหลดมากที่สุดจาก www.thingiverse.com (ผู้ใช้ทำการ remake เป็นของตัวเองมากที่สุดเช่นกัน)
 - 3D Printer ถูกเข้าใจว่าใช้มากที่สุดที่ USA ตามบริษัทที่ผลิตทั้งหมดที่ส่วนมากอยู่ใน USA แต่จริงๆแล้ว ใช้กันมากที่สุดที่ Europe(61%) ซึ่งมากเกือบสามเท่าของ USA(22%)
 - ปี 2005 เป็นปีที่ Dr. Andrian Bowyer ได้ก่อตั้ง RepRap ถือว่าเป็นบิดาแห่งเครื่อง 3D Printer แบบตั้งโต๊ะเลยก็ว่าได้
 - ปี 2008 จากความสำเร็จของ RepRap เป็นจุดเปลี่ยนนวัตกรรม 3D Modeling Prototype ปีนี้เองได้เริ่มมีการสร้าง ขาเทียม และ แขนเทียมจาก เครื่องพิมพ์ 3มิติ
 - ปี 2009 บริษัท MakerBot ได้ถือกำเนิด MakerBot ถือเป็นบริษัทชั้นนำในเรื่อง Desktop 3D printer
 - ปี 2009 ได้มีการสร้าง 3D Bio Printer เครื่องพิมพ์ชีวภาพ ซึ่งพิมพ์สเต็มเซลล์ของมนุษย์ สามารถพิมพ์เส้นเลือดได้
 - ปี 2011 กำเนิด รถยนต์ครั้งแรกที่สร้างจาก 3D printer ทั้งคัน ราคาอยู่ที่ 10,000-50,000 usd
 - วัสดุในการพิมพ์ เส้นพลาสติก หรือ Filament มีกว่า 50 ชนิด เช่น ABS, PLA, Nylon, PolyCarbon, ไม้, ยาง, หิน หรือ แม้กระทั่งยาง
 - เครื่อง 3D Printer มีต้องแต่ราคาหลักพัน ถึง หลายสิบล้านบาท
 - มีบริษัทที่เกิดใหม่ และต่อยอด เทคโนโลยี 3D Printing มากมาย ตัวอย่าง บริษัทผลิดเลนส์แว่นตา ขายเลนส์ โดยให้ลูกค้าพิมพ์หรือออกแบบกรอบแว่นเอง หรือ บริษัทที่ขาย 3D Model เครื่องใช้ต่างๆในบ้านเพื่อให้คนเสียเงินดาวโหลด ไปพิมพ์ออกมาใช้เองที่บ้าน
 - 3D Printer ไม่ได้เป็นเรื่องใกล้ตัวอีกต่อไป นิตรสาร Time จัดให้ 3D Printing เป็นอุตสาหกรรมที่น่าจับตามองในทศวรรษนี้
 

