เมื่อเอ่ยถึง “เครื่องเลเซอร์” หลายคนมักนึกถึงอุปกรณ์ขนาดใหญ่ในโรงงานอุตสาหกรรมที่ซับซ้อน ใช้งานยาก ต้องอาศัยการดูแลรักษาอย่างจริงจัง และมีมาตรการด้านความปลอดภัยที่เข้มงวด
ทำให้ผู้ที่สนใจนำมาใช้กับงานธุรกิจขนาดเล็ก งานในครัวเรือน โปรเจกต์ด้านการศึกษา หรือแม้แต่งาน DIY ส่วนตัว อาจรู้สึกว่าเทคโนโลยีเหล่านี้เป็นเรื่องไกลตัวและเข้าถึงได้ยาก แต่รู้มั้ยครับ
ว่าในปัจจุบันเทคโนโลยีเครื่องเลเซอร์ได้ถูกพัฒนาจนสามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น กระทัดรัดขึ้น และแทบไม่ต่างจากการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านเลย และหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้เริ่มต้น
คือ Falcon A1 จากแบรนด์ Creality ซึ่งออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ปลอดภัย และเหมาะกับงานแกะสลัก – ตัดวัสดุในระดับเบื้องต้น ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการเครื่องเลเซอร์สำหรับงานครัวเรือนหรือโปรเจกต์ DIY
ถึงแม้ Falcon A1 จะเป็นเครื่องเลเซอร์ที่ใช้งานได้สะดวกมากแล้ว แต่ไม่นานมานี้ก็มี Falcon A1 Pro รุ่นพี่ที่ต่อยอดจาก A1 ที่เพิ่งเข้าไทยมาสดๆ ร้อนๆ พร้อมด้วยฟีเจอร์เสริมมากมาย
ทำให้หลายท่านที่กำลังมองหาเครื่องเลเซอร์สำหรับใช้ในบ้าน สำนักงาน หรือสถาบันการศึกษา อาจกำลังลังเลว่าจะเลือกรุ่นไหนดี วันนี้ 3DD จะพาไปรีวิวเปรียบเทียบเครื่องทั้งสองรุ่น ให้เห็นความเหมือน
ความต่าง และช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่ารุ่นไหนเหมาะกับความต้องการของคุณมากที่สุด
- จุดเด่นเครื่องเลเซอร์ Falcon Series
- ความแตกต่างของ Falcon A1 และ A1 Pro
- ฟังก์ชันที่เสริมเข้ามาใน A1 Pro
- ตารางเปรียบเทียบสเปคระหว่าง A1 และ A1 Pro
- ตัวอย่างผลลัพธ์งานเลเซอร์จาก A1 และ A1 Pro
- สรุปแล้วรุ่นไหนเหมาะกับใครบ้าง?
จุดเด่นเครื่องเลเซอร์ Falcon Series
ก่อนอื่นก็อยากให้ทุกคนมาทำความรู้กับเครื่องเลเซอร์ Falcon A1 และ Falcon A1 Pro กันซะก่อน ซึ่งทั้งคู่เป็นเครื่องเลเซอร์สำหรับตัดหรือแกะสลักใน Falcon Series ของแบรนด์ Creality ที่ถูกออกแบบมา
ให้โดดเด่นในเรื่องการใช้งานง่าย เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นและผู้ที่ต้องการเครื่องเลเซอร์สำหรับงานสร้างสรรค์ส่วนตัวหรือโปรเจกต์ DIY ภายในบ้านหรือสำนักงาน ถึงแม้ว่า A1 Pro จะเป็นรุ่นที่ต่อยอด
จาก A1 และมีฟีเจอร์เสริมหลายอย่าง แต่ทั้งสองรุ่นก็ยังมีพื้นฐานที่เหมือนกันหลายประการ ก่อนที่เราจะไปดูความแตกต่างระหว่างสองรุ่นนี้ ลองมาทำความรู้จักกับ จุดเด่นหลักที่ทั้งสองรุ่นมีร่วมกันกันก่อน
โดยจุดเด่นหลักที่ทั้ง 2 เครื่องมีเหมือนกันมีดังนี้
👉ขนาดพอเหมาะ 👈
เครื่องเลเซอร์ Falcon Series มีความกะทัดรัดและยืดหยุ่นสูง เหมาะกับการปรับเปลี่ยนพื้นที่การทำงานตามความต้องการ เนื่องจากขนาดไม่ใหญ่และน้ำหนักเพียง 15–16 กก. จึงสามารถ
เคลื่อนย้ายได้สะดวก ไม่จำเป็นต้องตั้งเครื่องไว้ตำแหน่งเดิมตลอดเวลา เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในบ้าน สำนักงาน หรือสถานศึกษา ที่อาจต้องปรับเปลี่ยนมุมการทำงานหรือย้ายเครื่อง
ตามโปรเจกต์ต่าง ๆ อีกทั้งขนาดที่กะทัดรัดยังทำให้จัดวางบนโต๊ะทำงานหรือมุมเล็ก ๆ ได้ง่าย โดยไม่เกะกะพื้นที่โดยรอบ

👉ใช้งานง่าย 👈
ด้วยการทำงานประสานกันระหว่าง ฮาร์ดแวร์คุณภาพสูง กับ ซอฟต์แวร์อัจฉริยะ ทำให้เครื่องเลเซอร์ที่โดยปกติอาจดูซับซ้อน กลายเป็นเครื่องมือที่ทุกเพศทุกวัยสามารถใช้งานได้อย่างสะดวก
และเป็นมิตรต่อผู้ใช้งานมือใหม่ ซอฟต์แวร์ควบคุมถูกออกแบบให้ใช้งานง่าย พร้อมคำแนะนำแบบ Step by Step อีกทั้งตัวเครื่องทั้ง 2 รุ่นยังทำงานร่วมกับระบบกล้องในตัว ช่วยให้วางตำแหน่งภาพ
ที่จะเลเซอร์บนชิ้นงานได้อย่างแม่นยำ ลดความผิดพลาดและเพิ่มความมั่นใจให้ผู้เริ่มต้น
แม้แต่การตั้งค่าการเลเซอร์ที่ซับซ้อนสำหรับมือใหม่ ก็กลายเป็นเรื่องง่าย เพียงแค่เลือก Preset ที่ตั้งค่าพร้อมใช้งานสำหรับแต่ละวัสดุ ระบบจะปรับความแรงและความเร็วให้เหมาะสม การตัดหรือแกะสลัก
วัสดุต่าง ๆ จึงทำได้ราบรื่นและแม่นยำ
ยังไม่นับฟังก์ชันเสริมของซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้งานสะดวกขึ้น เช่น การตรวจจับเส้น Outline อัตโนมัติจากไฟล์ภาพ หรือ การจัดวางตำแหน่งอัตโนมัติสำหรับการเลเซอร์ภาพเดียวกันบนวัตถุรูปทรง
เหมือนกันทีละหลายชิ้น ฟีเจอร์เหล่านี้ช่วยลดขั้นตอนซ้ำซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ทำให้ผู้ใช้สามารถสร้างงานได้เร็วและแม่นยำมากขึ้น
👉ปลอดภัยสูง 👈
หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เครื่องเลเซอร์ Falcon Series สามารถใช้งานในบ้านได้อย่างมั่นใจ คือเรื่องของระบบความปลอดภัยที่ครบครัน เครื่องมาพร้อมระบบจัดการกลิ่นและควันในตัว
มาพร้อมปั๊มลมดูดอากาศ และช่องต่อท่อระบายควันที่สามารถต่อออกไปยังภายนอก หรือเชื่อมต่อกับ Smoke Purifier ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นหรือควันขณะทำงาน นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมี
ฝาครอบกรองแสงเลเซอร์ ที่ช่วยป้องกันไม่ให้แสงเลเซอร์เป็นอันตรายต่อดวงตา และยังเพิ่มความปลอดภัยอีกขั้นด้วยระบบเซฟตี้ หากฝาครอบถูกเปิด เครื่องจะหยุดทำงานทันที ช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำงาน
ได้อย่างสบายใจ ทั้งในบ้าน สำนักงาน หรือสถานศึกษา
ความแตกต่างของ Falcon A1 และ A1 Pro
เมื่อเราได้เห็น จุดเด่นที่เหมือนกันของทั้งสองรุ่น กันไปแล้ว คราวนี้มาดูกันบ้างว่า Falcon A1 และ A1 Pro มีความแตกต่างตรงไหนบ้าง แม้ว่าบางจุดอาจดูแตกต่างเพียงเล็กน้อย แต่ก็อาจส่งผล
ต่อการใช้งานจริงของแต่ละคนแตกต่างกันออกไป ความแตกต่างเหล่านี้อาจเป็นตัวช่วยสำคัญในการตัดสินใจว่าคุณควรเลือกเครื่องรุ่นใดให้ตรงกับความต้องการ มาดูกันทีละด้านกันเลยครับ
ว่าฟีเจอร์ไหนต่างกันยังไงบ้าง
👉รูปลักษณ์ภายนอก ขนาดตัวเครื่อง👈
ในส่วนของรูปลักษณ์ภายนอกทั้งสองรุ่นมีดีไซน์ที่เกือบเหมือนกันทั้งหมด โครงสร้างหลักเป็นอัลลอยขึ้นรูปให้ความแข็งแรงและเรียบหรูด้วยผิวด้านสีเทาเข้มตัดกับฝาสำหรับเปิด-ปิดกรองแสงเลเซอร์สีส้ม
สามารถเปิดได้ทั้งด้านบน และด้านหน้า ช่องเสียบสายต่างๆและปุ่ม Emergency Stop อยู่ทางซ้ายของเครื่อง โดยตามสเปคทั้งสองจะมีขนาดตัวเครื่องที่ต่างกันเล็กน้อยโดยขนาดเครื่องทั้ง 2 รุ่น
กว้างยาวเท่ากันแต่ A1 Pro จะสูงกว่าเล็กน้อย แต่เมื่อมาดูที่เครื่องจริงเมื่อมองเผินๆ แทบแยกกันไม่ออกเลย ในส่วนของน้ำหนัก A1 Pro จะหนักกว่าประมาณ 1 Kg โดยในส่วนนี้ไม่ได้มีความแตกต่าง
ที่มีนัยยะสำคัญมากนัก

👉กำลังเลเซอร์ Laserและพื้นที่การทำงาน👈
ถือเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดที่ถือเป็นจุดหลักในการตัดสินใจเลยว่าจะเลือกเครื่องไหนดี โดยทั้ง 2 รุ่นเป็น Blue Diode Laser เหมือนกันแต่ก็มีกำลังเลเซอร์ที่ต่างกัน เพื่อกลุ่มผู้ใช้งานที่มีความต้องการต่างกันดังนี้
รุ่น | กำลังเลเซอร์ | ความสามารถในการตัดขาดในครั้งเเดียว | วัสดุที่รองรับ |
Falcon A1 | 10 W | ไม้ Bass Wood หนา 6 มม. หรืออคริลิกสีดำหนา 5 มม. | ไม้, อะคริลิค, แก้ว, โลหะเคลือบสี, สแตนเลส |
Falcon A1 Pro | 20 W | ไม้ Bass Wood หนา 10 มม. หรืออคริลิกสีดำหนา 8 มม. | ไม้, อะคริลิค, แก้ว, โลหะเคลือบสี, สแตนเลส, โลหะบริสุทธิ์, พลาสติก |

ความสามารถในการตัดขาดครั้งเดียวของ A1 Pro
⚠️หมายเหตุ : ด้วยลักษณะของหัวเลเซอร์ที่ต่างกันทำให้พื้นที่การทำงานต่างกันเล็กน้อย เนื่องจาก A1 PRO มีขนาดหัวเลเซอร์ที่ใหญ่ขึ้นทำให้พื้นที่เลเซอร์ถูกกินด้วยขนาดของหัวเลเซอร์โดย Falcon A1 จะมี
พื้นที่การทำงานอยู่ที่ 305 X 381 มม. ส่วน Falcon A1 Pro พื้นที่การทำงานอยู่ที่ 268 x 358 มม.
👉การควบคุมการทำงาน👈
การควบคุมการทำงานกับเครื่องเลเซอร์ทั้ง 2 รุ่นหลักๆเลยจะทำงานด้วยการเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ผ่านโปรแกรม Falcon Design Space ของ Creality เลย ซึ่งทั้ง 2 รุ่นสามารถจัดวางตำแหน่ง
การเลเซอร์ได้อย่างแม่นยำเพราะทำงานร่วมกับระบบกล้องในตัว แต่จุดที่ทั้ง 2 รุ่นต่างกันก็คือ ตัว A1 ธรรมดาจะต้องทำงานแบบเสียบสายกับคอมพิวเตอร์ตลอดเวลาเท่านั้นจึงจะทำงานได้
ส่วนตัว A1 Pro จะมีจอควบคุมในตัว และสามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้ ทำให้รองรับการทำงานเพิ่มขึ้นอีก 2 รูปแบบ นั่นก็คือสามารถทำงานร่วมกันกับสมาร์ทโฟนบนแอพลิเคชั่น Falcon Design Space
ผ่าน Account ของ Creality ในการสร้างไฟล์ จัดวางตำแหน่งและส่งมาที่ตัวเครื่องเพื่อสั่งเลเซอร์อีกทั้งยังสามารถดูการทำงานผ่านมือถือได้แบบ Real-time อีกด้วย (ต่อ Wi-Fi วงเดียวกับเครื่อง)
และอีกวิธีทีคือสามารถเซฟไฟล์ใส่แฟลชไดร์แล้วมาเสียบกับตัวเครื่อง เพื่อสั่งเลเซอร์ที่ตัวเครื่องได้เลยไม่จำเป็นต้องต่อคอมพิวเตอร์ตลอดเวลา ซึ่งการที่มีจอควบคุมในตัวทำให้สามารถดูความคืบหน้า
ในการเลเซอร์ ประวัติการทำงาน รวมถึงตั้งค่าต่างๆ ได้เลย และด้วยการรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi นี้เองแม้จะทำงานในคอมพิวเตอร์เป็นหลักเราก็ไม่จำเป็นต้องตั้งคอมพิวเตอร์ไว้ข้างเครื่อง
เพื่อเสียบสายเลยสามารถส่งไฟล์ผ่าน Wi-Fi ไปที่เครื่องได้โดยตรง จะเห็นว่าการทำงานกับ A1 Pro จะสะดวกกว่าอย่างเห็นได้ชัด
👉ระบบ Focus👈
อีกหนึ่งส่วนสำคัญที่ทั้ง 2 รุ่นมีการทำงานคนละแบบอย่างเห็นได้ชัดเลย โดย A1 จะเป็นระบบ Focus แบบ Manual ที่เราต้องตั้งเองด้วยมือด้วยแผ่นสำหรับตั้งระยะโฟกัสที่ให้มากับเครื่อง
ต่างจาก A1 Pro ที่มีระบบ Auto Focus ในตัวเลย โดยใช้ระบบกล้อง AI ร่วมกับเลเซอร์ Red dot สามารถวัดความหนาของวัสดุและตั้งระยะได้อย่างแม่นยำ มีความคลาดเคลื่อนน้อยกว่า 0.3 มม.
⚠️หมายเหตุ : ระบบ Auto Focus จะทำงานบริเวญกลางถาด จำเป็นต้องวางวัสดุตรงกลางเป็นหลักเพื่อให้ Auto Focus ทำงานได้
ฟังก์ชันที่เสริมเข้ามาใน A1 Pro
นอกจากการอัปเกรดกำลังเลเซอร์ที่สูงขึ้น เพิ่มจอควบคุมในตัว และระบบ Auto Focus อัตโนมัติแล้ว รุ่น A1 Pro ยังใส่ฟังก์ชันเสริมที่ทำให้เหนือกว่าตัว A1 ธรรมดามาอีก นั่นคือการเพิ่มระบบ
เซ็นเซอร์ตรวจจับ/ป้องกันไฟไหม้ ที่สามารถหยุดการทำงานทันทีหากเกิดความผิดปกติ พร้อมทั้งส่งการแจ้งเตือนตรงไปยังสมาร์ตโฟนเพื่อความปลอดภัยสูงสุด นอกจากนี้ A1 Pro ยังยืดหยุ่นกว่า
ด้วยการรองรับการเปลี่ยนโมดูลหัวเลเซอร์เป็นแบบ IR 2W (ซื้อเพิ่มเองต่างหาก) ทำให้สามารถแกะสลักวัสดุที่หลากหลายขึ้น เช่น พลาสติกบางชนิดหรือวัสดุที่เลเซอร์สีน้ำเงินจัดการได้ยาก ฟังก์ชันเหล่านี้
ช่วยยกระดับประสบการณ์ใช้งานให้เหนือกว่ารุ่นธรรมดาอย่างชัดเจน
ตารางเปรียบเทียบสเปคระหว่าง A1 และ A1 Pro
![]() Creality Falcon A1 Pro ใหม่ |
![]() Creality Falcon A1 |
|
เหมาะกับ | เมกเกอร์ที่มีประสบการณ์ และธุรกิจขนาดเล็กที่เพิ่งเริ่มต้น |
นัก DIY ที่มือใหม่ การเริ่มใช้งานง่ายมาก |
ชนิดของเลเซอร์: | 20W Blue Laser 2W IR Laser (สำหรับโลหะ และพลาสติก) |
10W Diode Laser |
IoT Function: | มี | ไม่มี |
จอแสดงผลและควบคุม: | มี | ไม่มี |
ระบบออโต้โฟกัส: | มี | ไม่มี |
ความเร็วสูงสุด: | 600mm/s | 600mm/s |
กล้องดูภาพล่วงหน้า: | มี | ไม่มี |
ระบบ Plug-and-Play: | มี | ไม่มี |
ความปลอดภัยเลเซอร์: | Class 1 | Class 1 |
ตัดได้หนาสูงสุด: ความหนาสูงสุด ในการตัดครั้งเดียว |
10mm ไม้ basswood 8mm อะคริลิกสีดำ |
6mm ไม้ basswood 5mm อะคริลิกสีดำ |
วัสดุที่รองรับ: | ไม้, อะคริลิก, แก้ว, โลหะเคลือบสี, สเตนเลส, โลหะบริสุทธิ์, พลาสติก | ไม้, อะคริลิก, แก้ว, โลหะเคลือบสี, สเตนเลส |
ตัวอย่างผลลัพธ์งานเลเซอร์จาก A1 และ A1 Pro
ผลงานเลเซอร์จาก A1 ธรรมดา
ผลงานเลเซอร์จาก A1 Pro

สรุปแล้วรุ่นไหนเหมาะกับใครบ้าง?
สำหรับ Falcon A1 ธรรมดาที่แน่นอนว่ามีราคาย่อมเยากว่า A1 Pro จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการทดลองใช้งานเครื่องเลเซอร์ในระดับเบื้องต้น ไม่ว่าจะเป็นงานส่วนตัว โปรเจกต์ DIY
หรือใช้เป็นงานอดิเรกที่ไม่ได้เน้นการทำงานอย่างจริงจังมากนัก หากใช้งานกับวัสดุที่ไม่ได้หนามาก และเป็นลักษณะงานที่ซ้ำ ๆ ขนาดเดิม ไม่ต้องปรับโฟกัสบ่อย รุ่นนี้ถือว่าเพียงพอต่อการทำงานแล้วครับ
เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่อยากเริ่มต้นใช้งานเครื่องเลเซอร์ในราคาที่จับต้องได้
ส่วนตัว Falcon A1 Pro จะถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานที่จริงจังมากขึ้น เหมาะกับธุรกิจเชิงสร้างสรรค์ขนาดเล็ก ไปจนถึงสถาบันการศึกษาที่นำไปใช้เพื่อการเรียนรู้และการสอน ด้วยกำลังเลเซอร์
ที่มากกว่า ทำให้สามารถทำงานกับวัสดุได้หลากหลายและลึกขึ้น อีกทั้งยังมาพร้อมระบบควบคุมที่สะดวกกว่า รวมถึงฟังก์ชัน Auto Focus ที่ช่วยให้การเปลี่ยนวัสดุหลายขนาดเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว
จึงเอื้อให้การทำงานต่อเนื่องราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการใช้งานเลเซอร์กับวัสดุที่หลากหลาย หรือต้องการความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนงานอยู่เสมอ รุ่น Pro ถือเป็นตัวเลือก
ที่ตอบโจทย์ได้ดีกว่าอย่างชัดเจน
-
HotCamengraveCut
Creality Falcon A1 | A1 Pro | เครื่องเลเซอร์ตัด และแกะสลักขนาด 20Watt Auto Focus ใช้งานง่าย
Price range: 19,900.00 ฿ through 33,900.00 ฿ Select options This product has multiple variants. The options may be chosen on the product page -
engraveCut
Creality Falcon Smoke Purifier 45W/180W | เครื่องดูดกลิ่นและควัน สำหรับเครื่องเลเซอร์ตัด แกะสลัก
Price range: 6,990.00 ฿ through 16,900.00 ฿ Select options This product has multiple variants. The options may be chosen on the product page