“หูฟัง” ถือเป็นอีกหนึ่งแกดเจ็ตที่แทบจะขาดไม่ได้สำหรับทั้งวัยรุ่นไปจนถึงคนทำงาน ยิ่งในยุคที่สื่อบันเทิงและคอนเทนต์ออนไลน์กำลังบูม เรามักจะเห็นผู้คนสวมหูฟังระหว่างช่วงเวลาว่าง ไม่ว่าจะเป็น
ตอนรอรถ รอขึ้นเครื่อง หรือแม้แต่รอคิวอาหาร เพราะมันไม่เพียงทำให้เราเสพสื่อได้เต็มอรรถรส แต่ยังช่วยสร้างพื้นที่ส่วนตัว และไม่รบกวนผู้อื่นในที่สาธารณะอีกด้วย หูฟังจึงกลายเป็นแกดเจ็ตสำคัญ
ในชีวิตประจำวันอย่างแท้จริง ซึ่งหากย้อนกลับไปในอดีต หูฟังยังไม่ได้ใช้งานได้สะดวกเหมือนทุกวันนี้ เพราะมีสายระโยงระยางหรือมีขนาดใหญ่เทอะทะ ทำให้หลายคนไม่ค่อยนิยมพกพา แต่ปัจจุบัน
เทคโนโลยีได้พัฒนาไปไกล จากหูฟังแบบมีสายก็กลายเป็นหูฟังไร้สายที่เล็กลง พกง่าย และยังให้คุณภาพเสียงดีเยี่ยม บวกกับฟีเจอร์เสริมอย่างการตัดเสียงรบกวน ทำให้หูฟังยุคใหม่ตอบโจทย์
ทั้งการใช้งานและไลฟ์สไตล์ จนกลายเป็นไอเทมที่ผู้คนเลือกใช้มากขึ้นเรื่อย ๆ

ทุกวันนี้ผู้ใช้งานไม่ได้มองหูฟังแค่ในมุมของประโยชน์ใช้สอยเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ที่ช่วยส่งเสริมไลฟ์สไตล์ให้ดูดีขึ้นด้วย เพราะต่อให้หูฟังจะมีฟีเจอร์เด็ดแค่ไหน หากดีไซน์ไม่น่าดึงดูด
ก็ยากที่จะมีคนอยากใช้ หูฟังยุคปัจจุบันจึงมักถูกออกแบบให้มีรูปลักษณ์เรียบหรู ดูแพง และดูไฮเทค ซึ่งถือเป็น “ดีไซน์กลาง” ที่สวยงามและใช้งานได้ทุกกลุ่ม แต่ในอีกด้านหนึ่งก็อาจดูคล้ายกันไปหมด
ทำให้หลายคนเริ่มมองหาอุปกรณ์เสริมเพื่อแสดงความเป็นตัวเองมากขึ้น และสิ่งนั้นก็คือ “เคสหูฟัง” ที่นอกจากจะทำหน้าที่ปกป้องอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกไม่ให้เสียหายแล้ว ยังทำหน้าที่เป็นตัวบ่งบอก
ความเป็นตัวตนของผู้ใช้งานได้อย่างดี

ผมเชื่อว่าทุกคนคงมีหูฟังของตัวเองอย่างน้อยสักหนึ่งอันอยู่แล้วใช่ไหมครับ? วันนี้ผมเลยอยากแชร์ไอเดียเล็ก ๆ ที่จะช่วยเปลี่ยนหูฟังธรรมดา ๆ ของคุณให้ดูน่าสนใจขึ้นด้วยการ “ออกแบบเคสหูฟัง
-สไตล์มอนสเตอร์” ในแบบที่ผมอยากลองทำ ขั้นตอนการทำงานจะมีอะไรบ้าง ผลลัพธ์ที่ได้จะน่าสนแค่ไหน และใครจะรู้… Showcase นี้อาจเป็นแรงบันดาลใจให้คุณลุกขึ้นมาออกแบบเคสหูฟัง
ในสไตล์ของตัวเองก็ได้ เพราะงั้นมาดูกันไปพร้อม ๆ กันเลยครับ!
- ทำไมต้องเป็นเคสหูฟังมอนสเตอร์
- แนวคิดการออกแบบตัวละคร
- สแกนหูฟังเพื่อสร้างต้นแบบตามขนาดจริง
- ขึ้นโมเดล 3 มิติตามไอเดียสร้างสรรค์
- เปลี่ยนไฟล์ดิจิตอลสู่งานจริงด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติ
- ผลงงานเสร็จสมบูรณ์
ทำไมต้องเป็นเคสหูฟังมอนสเตอร์
ถ้าถามว่าทำไมต้องเป็นเคสหูฟังมอนสเตอร์ ถ้าตอบแบบสั้นๆ ง่ายๆ ก็คงเป็นเพราะความชอบล้วนๆเลยครับ 555+ แต่ถ้าจะอธิบายให้จริงจังกว่านั้น ก็น่าจะมาจากการที่ผม และอีกหลายๆคนน่าจะเหมือน
กันคือ เติบโตมากับหนังและการ์ตูนที่เต็มไปด้วยมอนสเตอร์ ตั้งแต่หนังซูเปอร์ฮีโร่ที่ต้องสู้กับสัตว์ประหลาดยักษ์ ไปจนถึงแอนิเมชันที่มีมอนสเตอร์น่ารักๆ หรือแม้แต่ซีรีส์ที่เล่าเรื่องสัตว์กลายพันธุ์
ซึ่งทั้งหมดนี้ได้สร้างภาพจำของ “มอนสเตอร์” เอาไว้ในใจเราโดยไม่รู้ตัว แต่เหตุผลสำคัญที่ทำให้ผมปิ๊งไอเดียนี้ขึ้นมาก็คือลักษณะของกล่องเก็บหูฟังที่ผมนำมาออกแบบเคสนี้เองที่เป็นฝาเปิดด้านบน
คล้ายกล่องเก็บแหวน ผมเลยลองจินตนาการดูว่า ถ้าออกแบบเคสให้เป็นมอนสเตอร์ที่มีฟันแหลมๆ เวลาที่เราเปิดฝากล่องขึ้นมา มันก็คงเหมือนมอนสเตอร์กำลังอ้าปากอยู่ซึ่งน่าจะดูเท่ไม่น้อย

ไอเดีย “มอนสเตอร์อ้าปาก” จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของโปรเจกต์นี้ และถ้าใครอยากออกแบบเคสหูฟังในสไตล์ตัวเอง ก็สามารถนำลักษณะของหูฟังมาเป็นแรงบันดาลใจได้เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นวาฬอ้าปาก
จระเข้อ้าปาก หรือแม้กระทั่งตัวละครแฟนตาซีที่ขึ้นชื่อเรื่องปากกว้าง ก็สามารถดัดแปลงมาใช้ได้ตามใจชอบเลยครับ
แนวคิดการออกแบบตัวละคร
เมื่อได้ไอเดียตั้งต้นแล้ว ขั้นต่อมาก็คือการกำหนดคอนเซ็ปต์หลักในการออกแบบ ผมอยากให้ตัวมอนสเตอร์มี “ตาอยู่ด้านบน และมี ฟันรอบๆ” ทั้งด้านหน้า ซ้าย และขวาของฝาบนที่ใช้เปิด เพื่อให้เวลา
หยิบหูฟังออกมาเหมือนกับการเปิดปากของมันจริงๆ ในช่วงแรก ผมได้ลองออกแบบมอนสเตอร์หลายแบบ ทั้งที่คิดขึ้นเองและใช้ AI ช่วยสร้างภาพ บางแบบออกมาเป็นมอนสเตอร์สองตา แต่กลับรู้สึก
ว่ายังดูธรรมดาไป เลยตัดสินใจเปลี่ยนเป็นมอนสเตอร์ “ตาเดียว” เพื่อสร้างความประหลาดและลึกลับมากขึ้น ส่วนสัดส่วนของตัวละครนั้นผมเลือกให้คล้ายๆ สไตล์ SD (Super Deformed) ที่มีรูปร่าง
อ้วนป้อมดูน่ารัก แต่แฝงความน่ากลัวด้วยดีเทลสมจริงแบบสัตว์ประหลาด เช่น รอยย่น เกล็ด หรือพื้นผิวผิวหนังที่ไม่เรียบ

แม้คอนเซ็ปต์หลักคือปากขนาดใหญ่กับดวงตาเดียว แต่ผมยังรู้สึกว่าตัวละครดูเรียบไป เลยลองเพิ่มองค์ประกอบขา เข้าไปเพื่อให้มีลูกเล่นมากขึ้น หลังจากลองหลายรูปแบบก็พบว่าขา
แบบ “หนวดปลาหมึก”ดูเหมาะที่สุด เพราะให้อารมณ์ทั้งน่าขนลุกและเท่ในเวลาเดียวกัน สรุปแล้ว แนวคิดการออกแบบตัวละครมอนสเตอร์สำหรับเคสหูฟังนี้คือการผสมผสานความน่ารักแบบการ์ตูน SD
เข้ากับความดิบสมจริงของสัตว์ประหลาด เพื่อสร้างความแปลกตาและดึงดูดใจ ส่วนรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ จะเพิ่มเติมหรือตัดทอนก็ไปปรับอีกทีตอนขึ้นโมเดล 3 มิติครับ
สแกนหูฟังเพื่อสร้างต้นแบบตามขนาดจริง
การจะออกแบบเคสหูฟังให้พอดีเป๊ะ สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ “ข้อมูลขนาดจริง” ของหูฟังรุ่นนั้นๆ แน่นอนว่าหากจะวัดด้วยไม้บรรทัดหรือเวอร์เนียร์เองก็คงทำได้ แต่เนื่องจากตัวหูฟังและกล่องเก็บ
มีทั้งส่วนโค้งและเว้าหลายจุด การวัดด้วยมือไม่เพียงแต่ยากมากๆ แต่ยังมีโอกาสคลาดเคลื่อนสูง บอกเลยว่าต่อให้มีพิมพ์เขียวของหูฟังก็อาจต้องลองปรับแก้หลายรอบกว่าจะได้เคสที่ฟิตพอดีจริงๆ
ดังนั้นวิธีที่ง่ายและแม่นยำกว่ามากก็คือ “การสแกน 3 มิติ” ซึ่งสามารถเก็บข้อมูลรูปทรงจริงของวัตถุออกมาได้ครบถ้วนทุกมุมแบบเป๊ะๆ ผมเลือกใช้ Creality Raptor X เครื่องสแกนเลเซอร์
ความละเอียดสูงที่ขึ้นชื่อเรื่องความเร็วและความแม่นยำ จุดเด่นของมันคือสแกนได้ละเอียดถึงระดับมิลลิเมตรและยังใช้งานง่าย แม้จะเป็นงานชิ้นเล็กอย่างหูฟังก็เก็บรายละเอียดออกมาได้ครบ
กระบวนการสแกนทั้งหมดใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที จากนั้นก็แค่ประมวลผลรวมข้อมูลด้านหน้าและด้านหลังเข้าด้วยกัน แล้ว Export ออกมาเป็นไฟล์ 3 มิติที่พร้อมนำไปใช้งานต่อทันที ขั้นตอนนี้ทำให้เรามี
ต้นแบบหูฟังขนาดจริงแบบดิจิทัลที่พร้อมใช้ในการออกแบบเคสโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการวัดผิดพลาดอีกต่อไป
💡 Tips: ถ้าใครไม่มีเครื่องสแกน 3 มิติ สามารถใช้วิธีถ่ายภาพหูฟังจากหลายๆ มุม แล้วนำไปสร้างโมเดลด้วยซอฟต์แวร์ Photogrammetry แทนได้ แม้อาจไม่ละเอียดเท่าเลเซอร์สแกน แต่ก็เป็นทางเลือก
ที่ดีสำหรับการทำงาน DIY
ขึ้นโมเดล 3 มิติตามไอเดียสร้างสรรค์
มาถึงขั้นตอนหลักที่สำคัญที่สุดก็คือ “การสร้างโมเดล 3 มิติ” โดยสเต็ปแรกคือการขึ้นโครง (Base Form Modeling) ซึ่งสามารถทำได้ทั้งการปั้นเองจากศูนย์หรือใช้ AI ช่วย Generate รูปทรงตั้งต้นก็ได้
สำหรับโมเดลในครั้งนี้ผมเลือกปั้นเอง เพราะเริ่มจากรูปทรงเรขาคณิตง่ายๆ แล้วค่อยต่อยอดขึ้นเป็นโครงสร้างพื้นฐาน จะทำให้มีความยืดหยุ่นมากกว่า ปรับแต่งได้ตามคอนเซ็ปต์ที่ตั้งไว้

เนื่องจากโมเดลไม่ได้ถูกออกแบบแบบสมบูรณ์ตั้งแต่แรก การทำงานจึงคล้ายๆทำไปคิดไป 555+ คือขึ้นไฟล์หลักตามคอนเซ็ปต์ก่อน แล้วค่อยเติมรายละเอียดภายหลัง เมื่อได้โครงสร้างใหญ่แล้วก็เริ่ม
Blend ผสานรวมส่วนต่างๆ เข้าด้วยกัน จากนั้นค่อยๆ เสริมรายละเอียดรอง เช่น ขอบตา เปลือกตา เหงือก ริมฝีปาก หรือรอยย่นต่างๆ ก่อนจะใส่ Detail เล็กๆ อย่างเกล็ดและพื้นผิวตะปุ่มตะป่ำ
จนตัวละครดูมีชีวิตมากขึ้น


ส่วนสำคัญอีกจุดที่ห้ามลืมคือการ “แบ่งไฟล์โมเดล” ให้สอดคล้องกับการเปิด-ปิดของกล่องหูฟัง โดยแยกเป็นฝาบนกับส่วนตัวเครื่องด้านล่าง แล้วนำไฟล์สแกนหูฟังจริงมาช่วยเจาะคว้านพื้นที่ด้านใน
เพื่อให้หูฟังวางได้พอดีและใช้งานได้จริง เมื่อเสร็จครบทุกขั้นตอนนี้ เราก็จะได้โมเดลมอนสเตอร์เวอร์ชันดิจิทัลที่พร้อมเข้าสู่การพิมพ์ 3 มิติแล้ว

เปลี่ยนไฟล์ดิจิตอลสู่งานจริงด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติ
เมื่อไฟล์โมเดลเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการเปลี่ยนมันจากไฟล์ดิจิทัลให้กลายเป็นชิ้นงานจริงที่จับต้องได้ด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติ สำหรับโปรเจกต์นี้ผมเลือกใช้ Elegoo Mars 5 Ultra 9K
เครื่องพิมพ์ระบบเรซิ่นไซส์กะทัดรัดที่คุณภาพไม่ธรรมดา การพิมพ์ความเร็วสูง ที่รองรับขนาดงานสูงสุด 153.36 x 77.76 x 165 มม. ด้วยหน้าจอ 7 นิ้วความละเอียด 9K และระบบเอียงถาดที่ช่วยให้
ทุกงานพิมพ์ไหลลื่น ไม่สะดุด เครื่องรุ่นนี้เหมาะมากสำหรับใครที่อยากเริ่มทำเคสหูฟังของตัวเองแบบจริงจังแต่มีงบจำกัด ราคาประมาณหมื่นต้นๆ แต่ให้คุณภาพงานพิมพ์ระดับโปร เรียกได้ว่าคุ้มสุดๆ
ก่อนอื่นมาเตรียมไฟล์ใน Chitubox โปรแกรม Slicer ยอดนิยมที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ขั้นตอนการเตรียมไฟล์ก็ไม่ซับซ้อน ถ้าใครทำงานเกี่ยวกับไฟล์ 3 มิติอยู่แล้วก็คงจะเข้าใจขั้นตอนการทำงานอยู่แล้ว
แต่ถ้าใครไม่เข้าใจว่าขั้นตอนการเตรียมไฟล์คืออะไร ก็ขอสรุปขั้นตอนการทำงานคร่าวๆคือ ตั้งค่าขนาดจัดวางตำแหน่งปรับหมุนองศา→ทำให้โมเดลกลวง→เจาะรู→ใส่ซัพพอร์ต เมื่อทุกอย่างเสร็จแล้ว
ก็ Export ไฟล์ส่งไปพิมพ์ที่เครื่องได้เลย
การพิมพ์ด้วยเครื่อง Elegoo Mars 5 ก็ไม่ยากเลย ผมเลือกใช้ 3DD Nano Ultra-Detail Resin 1Kg เรซิ่นความละเอียดสูงสุด สีส้ม เพราะขึ้นชื่อเรื่องการเก็บรายละเอียดที่คมชัด เหมาะกับงานที่ต้องโชว์
Texture และดีเทลของมอนสเตอร์ หลังจากทำความสะอาดเครื่อง เทน้ำยาเรซิ่น และติดตั้งถาดพิมพ์เรียบร้อยแล้ว ก็สั่งพิมพ์ได้เลย
ผลงานเสร็จสมบูรณ์
โมเดลนี้มีขนาดประมาณ 90x83x80 ใช้เวลาพิมพ์ประมาณ 3 ชม.กว่าก็เสร็จแล้ว หลังจากล้างทำความสะอาดและอบโมเดลแล้ว ผลลัพธ์ก็จะได้งานเคสหูฟังสุดเท่ดีไซน์ไม่เหมือนใครแบบนี้เลย

-
WashableHD
3DD Washable Resin 1Kg เรซิ่นมาตรฐาน ล้างได้ด้วยน้ำเปล่า
890.00 ฿ Select options This product has multiple variants. The options may be chosen on the product page -
Full HD
3DD Nano Ultra-Detail Resin 1Kg เรซิ่นความละเอียดสูงสุด สีส้ม
890.00 ฿ Read more -
Engineering
3DD Engineer Resin 1Kg แข็งแรง ให้ตัว ทำชิ้นส่วน Functional ได้
990.00 ฿ Add to cart -
HotWifiCamTilt Mechanism
ELEGOO MARS 5 Ultra : MLCD Printer 9K คุ้มค่า มีระบบเอียงถาด
Original price was: 16,900.00 ฿.11,900.00 ฿Current price is: 11,900.00 ฿. Add to cart -
HotWifiCamTilt Mechanism
ELEGOO Saturn 4 Ultra 16K : MLCD Printer ขนาดกลาง มีระบบเอียงถาด Build-in Cam
Original price was: 23,900.00 ฿.19,900.00 ฿Current price is: 19,900.00 ฿. Add to cart -
HD
3DD Standard Resin 1Kg เรซิ่นสำหรับงานทั่วไป เนื้อละเอียด
790.00 ฿ Select options This product has multiple variants. The options may be chosen on the product page