รีวิว EinScan Rigil เครื่องสแกน 3 มิติแบบพกพาที่ทรงพลังที่สุดในตอนนี้

รีวิว EinScan Rigil เครื่องสแกน 3 มิติแบบพกพาที่ทรงพลังที่สุดในตอนนี้

ถ้าพูดถึงการสแกน 3 มิติในภาคอุตสาหกรรมแน่นอนว่า 3D Scanner กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในหลายอุตสาหกรรมไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นยานยนต์ การออกแบบผลิตภัณฑ์ การแพทย์
ไปจนถึงการบูรณะโบราณวัตถุ การสแกน 3 มิติเข้ามาช่วยให้งานเหล่านี้แม่นยำขึ้น ทำซ้ำได้ และวิเคราะห์ได้ละเอียดมากขึ้น แต่หลายครั้งที่ผมเจอว่าเครื่องสแกน 3 มิติระดับโปรที่ให้ความแม่นยำสูง
กลับมีข้อจำกัดในการพกพา ทำให้ไม่สามารถนำไปใช้งานหน้างานได้สะดวก เช่น การสแกนรถทั้งคันนอกสถานที่ หรืองานชิ้นใหญ่ที่ไม่สามารถขนเข้าห้องสแกนได้ นี่แหละครับ คือปัญหาที่ทำให้หลายงาน
ต้องยอมเสียเวลาในการสแกนงานที่นานขึ้นและความแม่นยำที่น้อยลงด้วยการใช้ ” เครื่องสแกนแบบพกพา “


เหตุผลที่เครื่องสแกนแบบพกพา มีข้อจำกัดในการสแกนนั่นก็คือหน่วยประมวลผล ด้วยการออกแบบที่ต้องทำให้เครื่องสแกนสามารถพกพาได้ จึงทำให้หน่วยประมวลผลมักถูกจำกัดไปด้วย
บางรุ่นก็ใช้วิธีออกแบบให้สามารถเชื่อมต่อกับมือถือเพื่อเป็นหน่วยประมวลผล (ถ้ามือถือไม่ใช้ระดับโปรก็ทำให้การประมวลผลช้า) แต่โดยรวมแล้วหน่วยประมวลผลของเครื่องสแกนที่พกพาได้มักช้า
จึงทำให้ใช้เวลาการสแกนที่มากขึ้น และความแม่นยำมักต่ำกว่าเครื่องสแกนแบบอยู่กับที่ ทำให้หลายครั้งผู้ใช้งานต้องเลือกว่าจะพกพาได้ แต่เสียคุณภาพ หรือได้คุณภาพ แต่พกไม่ได้ แต่วันนี้ผมอยากแนะนำ
เครื่องที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหานั้นโดยเฉพาะ และไม่ใช่แค่แก้ปัญหา แต่ให้ประสิทธิภาพระดับโปรด้วย นั่นคือ EinScan Rigil เครื่องสแกนแบบพกพาที่เรียกได้ว่าทรงพลังที่สุดในขณะนี้

ทำความรู้จัก Rigil
EinScan Rigil เป็นเครื่องสแกน 3 มิติแบบพกพารุ่นใหม่จาก SHINING 3D ที่มีหน้าจอและหน่วยประมวล(CPU+GPU) ในตัวเลย ออกแบบมาสำหรับงานอุตสาหกรรมจริงจัง จุดเด่นของเครื่องนี้คือ
เป็นเครื่อง Stand Alone ที่กล้าพูดได้เลยว่าเป็น Stand Alone ที่แท้จริง เพราะสามารถสแกนงานและประมวลผลจบในตัวได้แบบ 100% ต่างจากเครื่องสแกนรุ่นอื่นที่ ที่ต่อมือถือ
เพื่อสแกนแบบ Stand Alone ซึ่งจะสแกนได้ไม่ดีนัก แต่ Rigil สแกนและประมวลผลในตัวทำงานได้ไวไม่ต่างจากการทำงานของเครื่องสแกนระดับโปรที่ต่อกับคอมเลย


นอกจากใช้งานแบบ Stand Alone Rigil ยังสามารถทำงานได้ถึง 3 โหมดที่จะทำให้ผู้ใช้งานมีความยืดหยุ่นในการเลือกใช้งานตามลักษณะงาน ได้แก่

    • Standalone Mode : ไม่ต้องเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ สามารถสแกนและประมวลผลได้ในตัว
    • Wireless PC Mode : สแกนไร้สายได้แบบไม่สะดุดด้วย built-in Wi-Fi 6 สามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์
      ระดับโปรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานที่ซับซ้อนและจัดการไฟล์สแกนขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    • Wired PC Mode : ระดับความเสถียรและความเร็วการสแกนสูงสุดพร้อมทำงานกับไฟล์สแกนขนาดใหญ่
      ที่มีความซับซ้อนสูง

 

Rigil ใช้ระบบ Hybrid Light Source หรือแหล่งกำเนิดแสงแบบผสม คือ มีทั้งการสแกนด้วย Blue Laser แบบ 19 + 19 crossed laser lines สำหรับงานที่ต้องการความเร็ว
และ 7 parallel laser lines สำหรับงานที่ต้องการเก็บรายละเอียด โดยความแม่นยำสูงถึง 0.04 + 0.06 mm/m ที่ความละเอียดสูงสุด 0.05mm.

และแสงแบบ VCSEL infrared สำหรับสแกนคนหรือวัตถุที่ไม่ต้องการใช้แสงเลเซอร์ ด้วยความแม่นยำสูงถึง 0.1 + 0.3 mm/m ที่สามารถทำงานในระยะ 160 ~ 1500 mm

และส่วนที่สำคัญที่สุดของเครื่องสแกนแบบพกพานั่นก็คือ Hardware หรือหน่วยประมวลผลต่างๆ ที่เป็นส่วนสำคัญที่ตัดสินว่าเครื่องสแกนจะทำงานมีประสิทธิภาพมากแค่ไหน โดยตัว Rigil นั้นมาพร้อม
กับ CPU 8 core 2.4GHz กับพื้นที่เก็บในหน่วยความจำแบบ SSD ขนาด 1TB และ RAM ขนาด 32GB DDR5 พร้อมจอขนาด 6.4”2K AMOLED แบบ Touch Screen ทำให้มั่นใจได้เลยว่าเครื่องแรง
ประมวลผลได้อย่าลื่นไหลแน่นนอน

Rigil เหมาะกับใคร
Rigil ออกแบบมาให้เหมาะกับงานอุตสาหกรรมโดยเฉพาะครับ โดยเฉพาะงานในกลุ่มยานยนต์ ที่ต้องสแกนชิ้นงานที่มีความหลากหลายทั้งพื้นผิวและสภาพแวดล้อม นอกจากนี้ยังสามารถใช้ได้
ในหลากหลายงานที่ต้องการความแม่นยำในการเก็บรูปร่างวัตถุ เช่น นักออกแบบผลิตภัณฑ์ วิศวกรย้อนรอย (reverse engineering) นักออกแบบชิ้นส่วนเครื่องจักร ผู้ผลิตชิ้นส่วนเฉพาะ
งานฝีมือดิจิทัล นักปั้น 3D สำหรับเกมหรือแอนิเมชัน รวมถึงนักวิจัยที่ต้องการเก็บข้อมูลรูปร่างวัตถุอย่างละเอียด โดย Rigil สามารถใช้ในการทำโมเดล 3 มิติของวัตถุตั้งแต่ขนาดเล็ก
ไปจนถึงวัตถุขนาดกลาง เช่น หน้าคน ชิ้นส่วนยานยนต์ หรือของสะสม เพื่อการออกแบบ จำลอง ปรับแต่ง พิมพ์ 3 มิติ หรือบันทึกข้อมูลเชิงดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • การสแกนชิ้นส่วนรถยนต์ : ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ หรือช่วงล่างที่มักมีคราบน้ำมัน หรือผิวสีดำ ก็สามารถสแกนได้โดยไม่ต้องพ่นสเปรย์ เพราะระบบ NIR ทำงานได้ดีกับผิวแบบนี้
  • การสแกนกลางแจ้ง : แสงแดดจัด ๆ ก็ไม่เป็นอุปสรรค ด้วยระบบที่รองรับสภาพแสงแวดล้อมได้ดี สามารถทำงานภายได้แสงแดดที่มีความสว่างสูงสุดได้ถึง 100,000 lux
  • การสแกนคน : สำหรับการทำ Avatar, การออกแบบเสื้อผ้าตามตัวบุคคล หรือแม้แต่การสแกนร่างกายเพื่อศึกษาทางการแพทย์ ก็สามารถทำได้แบบแม่นยำ


รูปลักษณ์ภายนอก
ตัวเครื่อง Rigil ถูกบรรจุมาในแพ็คเกจรูปแบบกระเป๋าถือช่วยใช้สะดวกเวลาขนย้าย ตัวเครื่องมีขนาดกะทัดรัด มีน้ำหนักแต่จับถนัดมือ ดีไซน์เรียบหรู วัสดุดูพรีเมียมและออกแบบให้ระบายความร้อนได้ดี
ช่วยให้การทำงานต่อเนื่องไม่มีปัญหาเรื่องความร้อนสะสม ขนาดหน้าจอกำลังพอดีกับการทำงานสามารถดูภาพพรีวิวขณะสแกนได้อย่างชัดเจนสะดวก และที่ผมชอบมากคือ ในกล่องมีฐานวางเครื่อง
มาให้ด้วย ซึ่งปกติแล้วเครื่องรุ่นอื่นมักไม่แถม ตัวฐานนี้ทำให้สะดวกเวลาวางเครื่องพักระหว่างสแกน
ประสบการณ์การใช้งาน
สิ่งแรกที่ผมประทับใจคือ Rigil พร้อมใช้งานทันทีหลังแกะกล่อง ไม่ต้องติดตั้งอะไรยุ่งยาก เพียงแค่กดเปิดเครื่องก็พร้อมเริ่มสแกนทันที หน้าจอ Touchscreen ใช้งานง่ายมาก ออกแบบ UI มา
แบบ User Friendly ใครที่ไม่เคยใช้งานเครื่องสแกนผมคิดว่าก็สามารถเข้าใจการทำงานได้ไม่ยาก ตัวจอควบคุมในตัว หรือจะเรียกว่าคอมพิวเตอร์แบบพกพาก็ว่าได้ เพราะทำงานได้ไวมาก ไม่ว่าจะการ
พรีวิวไฟล์สแกนแบบ Real-Time หรือการประมวลผลโมเดลก็ยังไหว ซึ่งแน่นอนว่าต้องกินพลังงานเป็นธรรมดา แต่ไม่ต้องกังวลเพราะ Rigil ใช้แบตเตอรี่แบบถอดได้ ทำให้เราสามารถสลับแบต
เพื่อทำงานต่อเนื่องยาวได้ทั้งวัน ซึ่งในกล่องก็มีแบตสำรองมาให้ด้วย

การทำงานทั้ง 3 โหมดการทำงาน ช่วยให้เราสามารถเลือกให้เหมาะกับลักษณะงานได้ เช่น หากต้องทำงานนอกสถานที่ที่มีการเดินทาง เพียงพกกระเป๋า Rigil ก็พร้อมเดินทางไปสแกนนอกสถานที่ได้เลย
สามารถเก็บข้อมูลในหน่วยความจำของตัวเครื่องที่มีความจุถึง 1 TB แบบ SSD ซึ่งเขียนและอ่านข้อมูลไว แต่หากทำงานอยู่กับที่ ก็สามารถเชื่อต่อกับคอมพิวเตอร์ระดับโปรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด
ในการสแกนได้

การทำงานของเครื่องสแกน Rigil ไม่ต่างเครื่องระดับโปรเลยหากจะสแกนงานอยู่กับที่ผลลัพธ์ก็จะออกมาแบบเครื่องสแกนระดับโปรอื่นๆ ฉะนั้นคราวนี้เราจะมาทดสอบให้ดูโดยสแกนแบบพกพา
หรือโหมด Stand Alone เท่านั้น มาดูกันว่าสมกับฉายาที่ว่าเป็นเครื่องสแกนแบบพกพาที่ทรงพลังแค่ไหน ลองมาดูผลงานที่ผมลองสแกนวัตถุต่างๆดูกันครับ

การสแกนชิ้นส่วนรถยนต์ : เรามาลองสแกนชิ้นส่วนเครื่องยนต์กันโดยผมจะสแกนแบบติด Marker และเลือกใช้การสแกนด้วย Blue Laser แบบ 19 + 19 crossed laser lines เพื่อประสิทธิภาพ
ความรวดเร็วและความคล่องตัวสูงสุด การสแกนนี้ใช้เวลาประมาณ 2-3 นาทีก็สแกนจนครบแล้ว (รวมการสแกน marker ด้วย) ผลลัพธ์ออกมาถือว่าดีเลยทีเดียว



การสแกนโมเดลที่มีรายละเอียดสูง : การสแกนโมเดลที่มีรายละเอียดเยอะๆดูก็ถือว่าเก็บข้อมูลได้ค่อนข้างครบและคมชัดเลยทีเดียว นับว่างานขนาดเล็กก็ยังเอาอยู่

การสแกนคน : การสแกนคนผมเลือกใช้โหมดอินฟาเรดที่ปลอดภัยต่อสายตามนุษย์ ในการสแกนเต็มตัวใช้เวลาไม่เกิน 1 นาที ก็ได้ผลลัพธ์อันน่าพอใจ สามารถเก็บรายละเอียดเสื้อผ้า รอยยับต่างๆ
ได้ค่อนข้างครบ

การสแกนมอเตอร์ไซค์กลางแจ้ง : แม้จะอยู่ภายนอกอาคาร ในเวลาเกือบเที่ยง และมีแสงแดดสะท้อนเข้ามา ก็ยังสแกนได้สบายโดยใช้ร่วมกับ Marker เพื่อการทำงานที่แม่นยำ แม้มอเตอไซค์จะมีผิว
ที่ออกมันวาวแต่ก็ไม่ต้องพ่นสเปรย์เลย และการเก็บรายละเอียดแม่นยำพอที่จะนำไปทำ reverse engineering เพื่อสร้างชิ้นส่วนอะไหล่แต่งได้



สรุป
Einscan Rigil เป็นเครื่องสแกน 3 มิติแบบพกพาแบบ Standalone อย่างแท้จริง ด้วยฮาร์ดแวร์ที่ทรงพลังสามารถสแกนและประมวลผลจบในตัวจริงๆ แถมให้ประสิทธิภาพแบบเครื่องสแกนระดับโปรเลย ทำงานภาคสนามได้อย่างลื่นไหลด้วยระบบแบตเตอรี่แบบถอดเปลี่ยนได้ ความสามารถในการทำงาน 3 โหมดทำให้การทำงานยืดหยุ่นอย่างมาก ระบบ Hybrid Light Source ทำให้สแกนวัดถุได้อย่างหลากหลาย เหมาะกับการสแกนในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ต้องสแกนชิ้นงานที่มีความหลากหลายทั้งพื้นผิวและสภาพแวดล้อม และยังสามารถใช้ในงานออกแบบ งานอนุรักษ์ไปจนถึงงานคนคว้าวิจัย ถ้าคุณเป็นหนึ่งในคนที่กำลังมองหาเครื่องสแกนที่ใช้งานง่าย พกพาสะดวก แต่ยังคงคุณภาพระดับโปร ผมแนะนำให้ลองดู Einscan Rigil ตัวนี้เลยครับ รับรองว่าไม่ผิดหวัง