สแกน 3 มิติในงานจริง: ทำไม Eagle LiDAR จึงตอบโจทย์งานพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า Iphone

Big 101, ข่าวสาร , , ,
สแกน 3 มิติในงานจริง: ทำไม Eagle LiDAR จึงตอบโจทย์งานพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า Iphone

เปรียบเทียบเทคโนโลยีสแกน 3 มิติ Eagle LiDAR vs iPhone / Tablet LiDAR เลือกให้ตรงงาน ไม่ใช่แค่เลือกของที่ถูกหรือสะดวกที่สุดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีการสแกน 3 มิติได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นงาน ถาปัตยกรรม วิศวกรรม ก่อสร้าง ออกแบบภายใน ไปจนถึงงาน Virtual Tour และ Digital Twin หลายคนอาจเคยทดลองใช้ LiDAR บนมือถือ หรือเคยเห็นเครื่องสแกน 3 มิติแบบตั้งโต๊ะ แต่เมื่อถึงเวลาต้อง นำข้อมูลไปใช้งานจริง คำถามสำคัญคือ “ข้อมูลที่ได้ แม่นยำพอไหม?” “เอาไปทำงานต่อได้จริงหรือเปล่า?”  วันนี้ Print3DD ขอพาไปเจาะลึกการใช้งานจริงของแต่ละเทคโนโลยี เพื่อช่วยให้คุณเลือกเครื่องมือได้ตรงกับลักษณะงานมากที่สุด

 

📱 iPhone / Tablet LiDAR

ความสะดวกที่แลกมาด้วยข้อจำกัด

LiDAR บน iPhone และ iPad ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมากสำหรับผู้ที่อยากรู้จักโลกของการสแกน 3 มิติ เพราะเพียงเปิดแอป ก็สามารถสแกนห้องหรือพื้นที่รอบตัวได้ทันที เหมาะกับงานที่ต้องการความรวดเร็ว เช่น การพรีวิวพื้นที่ การนำเสนอไอเดีย หรือการประเมินหน้างานคร่าว ๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อใช้งานจริงในระดับมืออาชีพ ข้อจำกัดจะเริ่มชัดเจนมากขึ้น

ในการใช้งานจริง

  • เมื่อสแกนพื้นที่เล็ก เช่น ห้องเดียว ผลลัพธ์อาจดูน่าพอใจ

  • แต่เมื่อพื้นที่เริ่มใหญ่ขึ้น ความคลาดเคลื่อนจะเพิ่มขึ้นตามระยะทาง

  • ข้อมูล Point Cloud มีความหยาบ ไม่เหมาะกับการอ้างอิงเชิงมิติจริง

  • หากนำไฟล์ไปเปิดในโปรแกรม CAD หรือ BIM จะต้องแก้ไขเยอะ

สรุปการใช้งาน
มือถือเหมาะกับการ “ดูภาพรวม” มากกว่าการ “ใช้งานต่อจริง” ถ้าจุดประสงค์คือการวัดแบบคร่าว ๆ หรือทำ Visual Presentation มือถือยังตอบโจทย์ แต่ถ้าต้องการข้อมูลที่ใช้เป็นฐานงานออกแบบหรือก่อสร้างจริง มือถือยังไม่เพียงพอ

🦅 Eagle LiDAR

เครื่องมือสำหรับงานสแกนพื้นที่ที่ “ต้องเอาไปใช้จริง”

Eagle LiDAR ถูกออกแบบมาโดยมีเป้าหมายชัดเจน คือ การสแกนพื้นที่ขนาดใหญ่ในสภาพแวดล้อมจริง ไม่ว่าจะเป็นอาคาร ห้อง โรงงาน หรือไซต์ก่อสร้าง ผู้ใช้งานสามารถถือเครื่องแล้วเดินสแกนได้อย่างต่อเนื่อง

จุดเด่นที่เห็นได้ชัดจากการใช้งานจริง

  • ใช้ระบบ LiDAR ร่วมกับ SLAM ทำให้สแกนได้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องตั้งกล้อง

  • ลดปัญหา drift ได้ดีกว่า LiDAR บนมือถือ

  • ได้ Point Cloud ที่มีโครงสร้างและความหนาแน่นเหมาะกับงานมืออาชีพ

  • รองรับการนำข้อมูลไปใช้งานต่อใน CAD, BIM และซอฟต์แวร์ 3D อื่น ๆ

ตัวอย่างการใช้งานจริง

  • สแกนอาคารเพื่อนำไปทำแบบ As-built

  • สำรวจพื้นที่ก่อนการรีโนเวต

  • เก็บข้อมูลหน้างานสำหรับงานสถาปัตย์และวิศวกรรม

  • ทำ Virtual Tour หรือ Digital Twin

  • งานอนุรักษ์อาคารหรือสถานที่สำคัญ

        สิ่งที่ทำให้ Eagle LiDAR แตกต่าง คือ ข้อมูลที่ได้ไม่ใช่แค่ “ดูสวย” แต่ “นำไปทำงานต่อได้จริง” จากประสบการณ์ของ Print3DD ในการให้คำปรึกษาและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ด้าน 3D Technology เราพบว่า ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุด ไม่ใช่การเลือกอุปกรณ์ที่ไม่ดี แต่คือการเลือกอุปกรณ์ที่ “ไม่ตรงกับลักษณะงานจริง” หลายองค์กรเริ่มต้นจากเครื่องมือที่สะดวก ใช้ง่าย และราคาจับต้องได้ เช่น LiDAR บนมือถือ แต่เมื่อปริมาณงานเพิ่มขึ้น ความซับซ้อนของพื้นที่มากขึ้น หรือจำเป็นต้องนำข้อมูลไปใช้งานต่อในระดับมืออาชีพ ข้อจำกัดของอุปกรณ์เหล่านั้นจะเริ่มปรากฏอย่างชัดเจน

        ในงานที่ต้องอ้างอิงข้อมูลเชิงมิติจริง ไม่ว่าจะเป็นงานสถาปัตยกรรม วิศวกรรม ก่อสร้าง รีโนเวต หรือการสร้าง Digital Twin ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนเพียงเล็กน้อย อาจส่งผลกระทบต่อทั้งกระบวนการทำงาน ตั้งแต่การออกแบบ การประเมินงบประมาณ ไปจนถึงการตัดสินใจในหน้างาน
นี่คือเหตุผลที่ Print3DD ให้ความสำคัญกับคำว่า “ใช้งานต่อได้จริง” มากกว่าคำว่า “สแกนได้”  Eagle LiDAR จึงไม่ได้ถูกมองว่าเป็นเพียงอุปกรณ์สแกน 3 มิติ แต่เป็น เครื่องมือสำหรับเก็บข้อมูลพื้นที่จริง ที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับงานหน้างานโดยเฉพาะ ตั้งแต่การเดินสแกนพื้นที่ขนาดใหญ่ การลดความคลาดเคลื่อนจากการเคลื่อนไหว ไปจนถึงการได้ Point Cloud ที่มีโครงสร้างชัดเจนและเหมาะสำหรับนำไปใช้งานต่อในซอฟต์แวร์ระดับมืออาชีพ

         Print3DD มองว่า การลงทุนใน Eagle LiDAR คือการลงทุนใน ความแม่นยำ ความต่อเนื่อง และความมั่นใจในข้อมูล เมื่อข้อมูลตั้งต้นมีคุณภาพ การทำงานในขั้นตอนถัดไปจะรวดเร็วขึ้น ลดเวลาการแก้ไข ลดความเสี่ยงจากการวัดผิด และช่วยให้ทีมงานตัดสินใจได้จากข้อมูลจริง ไม่ใช่การคาดเดา นอกจากนี้ เรายังเชื่อว่าการเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสม ควรมาพร้อมกับ ความเข้าใจใน Workflow ทั้งระบบ ไม่ใช่แค่ตัวเครื่องเพียงอย่างเดียว Print3DD จึงให้ความสำคัญกับการให้คำแนะนำการใช้งานจริง ตั้งแต่การสแกน การจัดการข้อมูล ไปจนถึงการนำไฟล์ไปใช้งานต่อในงานออกแบบ วิศวกรรม หรือการนำเสนอ สุดท้ายนี้ หากคุณกำลังมองหาเครื่องมือที่ช่วยยกระดับงานจากการ “สำรวจคร่าว ๆ” ไปสู่การ “ทำงานบนข้อมูลจริง” Eagle LiDAR คือหนึ่งในคำตอบที่ Print3DD แนะนำอย่างมั่นใจ ไม่ใช่เพราะเป็นเทคโนโลยีใหม่ แต่เพราะเป็นเทคโนโลยีที่ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาในการทำงานจริงอย่างแท้จริง