เคสมือถือเป็นไอเท็มที่เรียกได้ว่าขาดไม่ได้ไปซะแล้วเพราะถ้าหากมีมือถือก็ต้องมีเคส เพราะไม่ถ้าไม่มีเคสมือถือของคุณอาจเป็นรอยได้ ซึ่งเคสทั่วไปนั้นหาซื้อง่ายและมีตรงรุ่นของทุกคนแต่สำหรับแอดแล้วเคสนั้นหายากเหลือเกิน ถ้าแบบที่มีขายก็ตัวเลือกน้อยมาก
มือถือของผมนั้นเป็นIphone 13 Mini ไม่ค่อยมีใครใช้และหาเคสยากพอสมควรจึงอยากลองทำเคสใส่เองซะเลย ตอนแรกว่าจะทำเองแต่เจอไฟล์บนThingiverseซะก่อนก็เลยลดเวลาได้เยอะเลย
ไฟล์ต้นฉบับ Download
พิมพ์สองวัสดุทำได้จริงหรือ?
การพิมพ์แบบสองวัสดุด้วยเครื่องพิมพ์แบบFDMนั้นไม่เป็นที่นิยมมากนักเพราะจากปัญหาของอุณหภูมิของสองวัสดุนั้นค่อนข้างห่างกันพอสมควร ซึ่งส่งผลให้การพิมพ์ตรงรอยต่อของสองวัดุนั้นอาจจะไม่เชื่อมติดกันหรืออาจจะติดดีเกินไปเนื่องจากอุณหภูมิของอันที่มาทับนั้นสูงกว่า แต่การทดลองนี้จะใช้เป็น PETG-CF และพิมพ์ทับด้วย Elastic(TPU95A) ที่เลือกสองตัวนี้เพราะเหตุผลหลักๆสองข้อครับ
– สองวัสดุนี้มีความน้อนที่ใช้ใกล้เคียงกัน โดย PETG-CF นั้นจะใชุ้ณหภูมิการพิมพือยู่ที่ 220-240C ในขณะที่ Elastic จะใช้อยู่ที่ 210-230 ซึ่งจะเห็นว่ามีคาบเกี่ยวกันอยุ่จึงคิดว่าน่าจะเชื่อมต่อกันได้โดยสมบูรณ์
– เคสสองวัสดุตามการออกแบบของแบรนด์ Nilkin โดยแรนด์นี้จะออกแบบเคสโดยใช้ด้านหลังเป็น PC ที่มีความแข็งซึ่งจะป้องกันการกระทกได้อย่างดีและทำขอบด้วย TPE ที่แข็งแรงแต่ยืดหยุ่นทำให้สลายแรงกระแทกได้อย่างสมบูรณ์
เริ่มกันเลย
พอได้ไฟล์มาแล้วก็วางไฟล์ในFlashprintเพื่อทำการตั้งค่าได้เลย โดยส่วนที่ต้องทำการตั้งค่ามีดังนี้
เครื่องที่เราจะเลือกพิมพ์ในวันนี้จะเป็น Finder3 เพราะตัวเครื่องนี้จะเป็นแบบDirect Drive จะสามารถพิมพ์เส้นชนิดElasticได้
เลือกโปรไฟล์เป็น PETG
Speed โดยความเร็วที่แนะนำของเส้นElasticนั้นจะไม่เกิน40mm/s โดยจะใช้ค่าที่ความเร็วนี้เป็นหลัก(PETG ความเร็วพื้นฐานอยู่ที่50mm/s จึงจำเป็นต้องปรับให้เข้ากับElastic)
Infill ตั้งเป็น100% เพื่อใช้งานจริง
Raft ให้ปิดไม่จำเป็ต้องใช้ ให้มาเปิด Brimแทน
เปิด Pause at height เพื่อหยุด ณ จุดที่เราต้องการ โดยของผมจะให้หยุดที่ชั้น7 เพราะจะเป็นชั้นก่อนที่จะเริ่มขึ้นขอบ1ชั้น
จากนั้นก็สั่งพิมพ์ก็เป็นที่เรียบร้อย
หลังจากที่ได้ทำการสั่งพิมพ์ไปสักพักใหญ่ๆก็อย่าลืมคำนวนเวลาเพื่อไปเปลี่ยนเส้นกันด้วยนะครับ
