ญี่ปุ่นฉีดงบประมาณ 4 พันล้านเยนเพื่อโครงการการพิมพ์สามมิติแห่งชาติ

ญี่ปุ่นฉีดงบประมาณ 4 พันล้านเยนเพื่อโครงการการพิมพ์สามมิติแห่งชาติ

5738885179_ba890d3298_z_original_original

ในขณะที่ผู้ผลิตเรื่องพิมพ์สามมิติในอเมริกาและยุโรปกำลังครอบครองตลาดการพิมพ์สามมิติ ญี่ปุ่นก็กำลังหาทางเข้ามาร่วมตอบโต้ด้วยเช่นกัน
รัฐบาลญี่ปุ่นได้อนุมัติเงิน 4 พันล้านเยน (38.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อสนับสนุนโครงการการพิมพ์สามมิติแห่งชาติ รวมไปถึงการวิจัยปละพัฒนาเครื่องพิมพ์สามมิติและทำเทคโนโลยีแบบพพมพ์สามมิติให้ดีขึ้น
จากในงบแนะมาณก้อนนี้ 3.2 พันล้านเยนจะถูกใช้เพื่อสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเครื่องพิมพ์สามมติสำหรับพิมพ์สินค้าสำหรับผู้บริโภคด้วยโลหะสำหรับใช้ในอุตสาหกรรม 550 ล้านเยนจะถูกใช้เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการพิมพ์สามมิติที่แม่นยำขั้นสุดยอด เช่น Fused Deposition Modeling, Selective Laser Sintering และเทคโนโลยีในขั้นตอนตามหลังและการรีไซเคิลผงแป้ง ส่วนที่เหลือ 250 ล้านเยนจะถูกใช้สำหรับการพัฒนาอุปกรณ์วัดสามมิติรุ่นใหม่ๆและซอฟต์แวร์การประมวลภาพ
ในระยะสั้นนี้ ญี่ปุ่นวางแผนที่จะสนับสนุนการใช้เครื่องพิมพ์สามมิติเป็นสื่อการเรียนการสอน ซึ่งเด็กๆจะได้สัมผัสประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับข้อมูล 3 มิติและเทคโนโลยีการพิมพ์สามมิติ โดยการทำเช่นนี้ พวกเขาหวังที่จะให้เด็กๆมีทักษะซึ่งจะช่วยให้พวกเขาใช้เครื่องมือได้อย่างถนัดสำหรับการวิจัยและออกแบบในอนาคต รวมทั้งสนับสนุนจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์

fotofig-3d-printing1-620x331

ในปี ค.ศ. 2014 กระทรวงเศรษฐศาสตร์ การค้าและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นวางแผยที่จะเริ่มโครงการวิจัยและพัฒนาโดยร่วมกับมหาวิทยาลัยและสถาบันขนาดใหญ่ 3 แห่ง ได้แก่ the National Institute of Advanced Industrial Science and Technology, Tohoku University และ Kinki University.

ในระยะยาว ญี่ปุ่นวางแผนผลิตเครื่องพิมพ์อุดสาหกรรมสามมิติชั้นสูงมากขึ้นภายในปี 2020 เพื่อจะสร้างแรงกระตุ้นหลักให้แก่ตลาดการพิมพ์สามมิติ ในตลาดสากล อเมริกาและเยอรมนีได้ครอบครองตลาดเครื่องพิมพ์สามมิติไปแล้ว คิดเป็น 75 % และ 15 % ตามลำดับ สัดส่วนของญี่ปุ่นมีเพียงแค่ 0.3% เท่านั้น หากอุตสาหกรรมเครื่องพิมพ์สามมิติของญี่ปุ่นที่เพิ่งเริ่มขึ้นสามารถสร้างเรื่องราวแห่งความสำเร็จขึ้นได้ อุตสาหกรรมด้านนี้ก็น่าจะไปได้ดีอย่างมาก

picture1152863

ญี่ปุ่นเข้าเล่นในตลาดแล้วน่าสนใจมากครับ ประเทศพัฒนาแล้วเค้ามองอะไรระยะยาว แต่พี่ไทยนี่สิยังตามหลังอยู่มากน่าเป็นห่วงจัง….