Review : CR Otter Lite แสกนเนอร์ตัวเริ่มต้น พกพาง่าย เพื่อนคู่ใจนักสร้างสรรค์ทุกระดับ

Review : CR Otter Lite แสกนเนอร์ตัวเริ่มต้น พกพาง่าย เพื่อนคู่ใจนักสร้างสรรค์ทุกระดับ

เป็นที่รู้กันว่าแสกนเนอร์ระดับโปรที่จะแสกนงานได้อย่างแม่นยำด้วยความละเอียดสูงนั้น ก็ต้องแลกมาด้วยราคาที่สูงขึ้นอย่างแน่นอน โดยแสกนเนอร์จากแบรนด์ Creality นั้นก็มีให้เลือกหลายระดับ
ใน Series Raptor ด้วยราคาที่แตกต่างกันตามความต้องการใช้งาน แต่สำหรับผู้เริ่มต้นที่ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ที่จะแสกนระดับมืออาชีพ ยังอาจรู้สึกว่าราคายังไม่ถูกใจเท่าไหร่ เพียงต้องการแสกน
เพื่อสร้างสรรค์งานโปรเจ็คส่วนตัว หรือใช้การแสกนเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบอื่นๆ วันนี้เราจึงอยากแนะนำน้องใหม่ไฟแรงจากแบรนด์ Creality ให้ทุกคนได้รู้จัก
นั่นก็คือ “CR Otter Lite” เครื่องแสกน 3 มิติแบบไร้สายในราคาที่เข้าถึงง่าย ที่ถือว่าให้ความสะดวกและความคล่องตัว มากที่สุดในตอนนี้เลยก็ว่าได้ หลังจากที่ได้ Preview กันให้ดูคร่าวๆแล้ว
วันนี้เราจะพาคุณไปชมการรีวิว Otter Lite แบบจัดเต็ม ทั้งคุณสมบัติเด่นและการใช้งานจริง

ทำความรู้จัก Otter Lite
Otter Lite เป็นเครื่องสแกน 3 มิติแบบไร้สาย ที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่ายแต่ทรงพลัง ด้วยเทคโนโลยี Near-Infrared (NIR) หรือการแสกนด้วยแสงอินฟาเรดที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า
ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ ทำงานประสานกับนวัตกรรมเลนส์สเตอรีโอ 4 ตัว ที่ถึงแม้จะเป็นรุ่นเริ่มต้น แต่ก็แสกนงานได้ละเอียดสูงสุดถึง 0.05 มม.ตั้งแต่ขนาด 20 – 2000 มม. แสกนได้ตั้งแต่เปลือกหอย
ไปจนถึงชิ้นส่วนยานยนต์ ด้วยความเร็วสูงสุดที่ 30 fps โดย Otter Lite เป็นเครื่องสแกน 3 มิติที่ออกแบบมาให้มีความคล่องตัวสูง เพื่อพกพาสำหรับแสกนงานนอกสถานที่โดยเฉพาะ
ด้วยน้ำหนักเพียง 300 กรัม และด้ามจับ Lite Bridge แบตเตอรี่ในตัวความจุขนาด 3400 mAH สามารถใช้งานได้ยาวนานถึงนาน 3 ชม. และแสกนงานกลางแจ้งได้ ( < 30000 lux )
แถมด้วยความพิเศษใน Mode แสกนคนที่ใช้อัลกอลิทึมสำหรับการแสกนใบหน้ามนุษย์โดยเฉพาะ ทำงานผ่านการเชื่อมต่อได้ทั้งคอมพิเตอร์และมือถือ โดยซอฟแวร์ประมวลผลตัวเดียวกัน
กับเครื่องแสกนระดับโปร Series Raptor ชื่อว่า CrealityScan ทำให้มั่นใจเรื่องประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างแน่นอน

 

Otter Lite เหมาะกับใคร
แน่นอนว่าชื่อ Otter Lite ก็ต้องไลท์สมชื่อ ทั้งในด้านราคาที่เบาสบายกระเป๋าเข้าถึงได้ง่าย จึงเหมาะกับผู้เริ่มต้น และผู้ใช้งานทั่วไปที่ทำงานสร้างโปรเจ็คเชิงสร้างสรรค์ ที่ไม่ใช่โปรดักชั่นขนาดใหญ่
และน้ำหนักที่พกพาง่ายกับตัวเครื่อองที่มีน้ำหนักเพียง 300 กรัม จึงเหมือนเพื่อนคู่ใจนักสร้างสรรค์ที่พร้อมไปไหนไปกันทุกเวลา เหมาะกับการพกพาไปสแกนงานนอกสถานที่ หรืองานที่ต้องมี
การเดินทางบ่อยๆ เพราะพกเพียงมือถือหรือแลปท็อปกับเครื่องแสกน Otter Lite ก็พร้อมเดินทางไปแสกนทุกที่แล้ว ด้วยความสามารถในการสแกนวัตถุได้หลายขนาดและรูปทรง ทำให้ Otter Lite
ตอบโจทย์งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการสแกนเพื่อออกแบบอะไหล่แต่งรถ งานออกแบบแฟชั่น เฟอร์นิเจอร์ ไปจนถึงการศึกษาทางโบราณคดี นอกจากนั้น Otter Lite ยังสามารถใช้งานได้ทันที
โดยไม่ต้องใช้ความรู้หรือเทคนิคขั้นสูง จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้งาน เริ่มต้น ที่อยากทดลองสร้างไฟล์ 3D จากวัตถุจริง นักศึกษา นักออกแบบผลิตภัณฑ์ ผู้พัฒนาเกม ไปจนถึงช่างฝีมือ
ที่ต้องการสร้างโมเดลเฉพาะทางจากวัตถุจริง

รูปลักษณ์ภายนอก
Otter Lite ถือว่าดีไซน์มาค่อนข้างดูดี ด้วยตัว Body สีดำด้าน ออกแบบมาให้แข็งแรงทนทานแต่ก็ยังคงความเรียบหรู ให้ความรู้สึกที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้ ให้ความรู้สึกที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า
เมื่อเทียบกับ Scanner ตัวอื่นๆ ตัว และในส่วนของด้ามจับ Lite Bridge ก็มีขนาดกำลังดี สามารถจับได้อย่างถนัดมือ มีแถบยางกันลื่นสามารถถือได้อย่างมั่นใจ ส่วนของปุ่มควบคุมเครื่อง
มีเพียง 3 ปุ่ม + ปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง1 ปุ่มเท่านั้น ถือว่าค่อนข้างทำให้ดูใช้งานง่ายเลยทีเดียว

Mode การเชื่อมต่อเครื่องแสกน
ด้วย Otter Lite นั้นถูกออกแบบมาให้รองรับการแสกนงานที่หลากหลาย จึงมี Mode การเชื่อมต่อให้เลือกถึง 3 Mode ขึ้นอยู่กับสถาณการณ์การใช้งานดังนี้

Stand-alone คือการเชื่อมต่อเครื่องแสกนเข้ากับมือถือ เพื่อประมวลผลและ Preview การแสกนโดยทำงานผ่านแอพพลิเคชั่นสามารถ แสกน-แก้ไข-ประมวลผลไฟล์- ส่งออกไฟล์ จบงานได้ภายในตัว
เหมาะกับงานที่ต้องการความคล่องตัวสูง ต้องมีการเดินทางไปแสกนนอกสถานที่ ไม่ต้องการพกพาอุปกรณ์เยอะ Mode นี้จะเหมาะกับงานขนาดไม่ใหญ่มาก เพราะต้องอาศัยการประมวลผลจากมือถือ
ยิ่งสเปคต่ำประสิทธิภาพการแสกนจะลดลง

Wireless-PC คือการเชื่อมต่อเครื่องสแกนเนอร์กับคอมพิวเตอร์/แล็ปท็อป ผ่าน Wifi6 โดยใช้ CPU, GPU คอมพิวเตอร์ในการประมวล Mode นี้ถือว่าลงตัวที่สุดสำหรับการใช้งานไร้สาย
และยังคงประสิทธิภาพการแสกนไว้ได้ ( คอมพิวเตอร์มีสเปคที่เหมาะสำหรับใช้งาน 3D Scan ) และยังสามารถเพิ่มความสะดวกโดยการสะท้อนภาพหน้าจอคอมพิวเตอร์ไปยังมือถือได้ เพื่อ Preview
ขณะแสกนได้ ทำให้ Mode นี้จะเหมาะกับงานที่ยังต้องการความคล่องตัวอยู่ หรืองานแสกนนอกสถานที่ ที่มีขนาดกลาง-ใหญ่

Cable-Connect คือการใช้สาย USB เชื่อมต่อโดยตรงกับคอมพิวเตอร์ แม้จะแลกมาด้วยสายเคเบิ้ลที่เกะกะ แต่ก็เป็นระบบการเชื่อมต่อที่รวดเร็วและเสถียรที่สุด เหมาะกับการแสกนงานที่ต้องการ
ความแม่นยำรวดเร็ว ด้วยสายทำให้เคลื่อนที่ตัวเครื่องไม่สะดวกจึงแสกนงานได้ที่ขนาดเล็ก-กลาง แนะนำให้ใช้ Turntable ควบคู่ไปด้วยเพื่อความลื่นไหลของการแสกน Mode นี้เหมาะกับการแสกนงาน
อยู่กับที่ ที่ต้องการทำงานต่อเนื่องเป็นเวลานาน เพราะเชื่อมต่อและใช้ไฟจากคอมพิวเตอร์โดยตรงไม่ต้องกังวลว่าแบตจะหมด

การใช้งานการแสกนวัตถุต่างๆ
Otter Lite นั้นออกแบบมาให้ใช้งานง่ายมากแค่เปิดเครื่อง เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์/มือถือ ก็เริ่มทำงานได้เลย ปุ่มควบคุมเครื่องมีเพียง 3 ปุ่มสำหรับ เพิ่ม/ลดแสง และ เริ่ม/พักการแสกน เท่านั้น
Otter Lite จะทำงานคู่กับโปรแกรม Creality Scan บน PC หรือแอพ Creality Scan บนมือถือซึ่งใช้งานง่ายมีหน้าตาที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน เมื่อเริ่มใช้งานครั้งแรกจะมีคำแนะนำการใช้งานเครื่องแสกนให้ดู
และเครื่องมือแต่ละเครื่องมือภายในโปรแกรมก็มีข้อมูลบอกว่าพารามิเตอร์แต่ละอันใช้สำหรับปรับอะไรบ้าง

สามารถตั้งค่าแสกนวัตถุได้หลากหลาย สามารถตั้งค่าตามขนาดวัตถุตั้งแต่วัตถุขนาดเล็ก วัตถุขนาดกลาง  วัตถุนาดใหญ่  ในโหมดการแสกนที่เลือกได้ว่า
จะเน้นรายละเอียดของวัตถุ เน้นการเก็บสี แถมยังรองรับการแสกนแบบติด Marker อีกด้วย และพิเศษด้วย Mode สำหรับการแสกนคนโดยเฉพาะ ที่เลือกได้ว่าเน้นแสกนใบหน้าหรือแสกนทั้งตัว

 

ตัวอย่างการทำงานแสกนวัตถุขนาดกลาง

 

 

วัตถุขนาดเล็ก-กลาง ถือว่าเป็นงานที่ Otter Lite ทำงานได้ลื่นไหลที่สุดเพราะสามารถแสกนได้เร็วและแม่นยำโดยไม่ต้องใช้ระบบประมวลผลสูง หากยิ่งแสกนวัตถุขนาดเล็กก็สามารถแสกนผ่านมือถือได้
เพราะไม่ต้องพึ่งการประมวลผลหนัก แต่แนะนำว่าใช้ Mode Cable-Connect แล้วทำงานกับ Turntable จะแสกนได้อย่างไหลลื่นที่สุด โดยวัตถุขนาดเล็ก-กลาง จะใช้เวลาการแสกนเพียง 1-2 นาทีเท่านั้น
แม้จะได้ได้ให้ความละเอียดสูงเท่าเครื่องระดับโปร แต่ก็เพียงพอที่จะนำไฟล์ไปทำงานสร้างสรรค์ออกแบบได้เแล้ว

การเก็บสี งานแสกนเพื่อเก็บสีถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างตรงกับสีจริง แต่ในด้านรายละเอียดหรือความคมชัดนั้นอาจจะไม่ได้คมชัดมาก แต่ก็เพียงพอต่อการใช้งานระดับทั่วไปแล้ว เช่น การสร้าง 3D Asset
การนำไปพิมพ์โมเดลสี หรือการนำไปอ้างอิงการทำ Texture สำหรับโมเดล 3 มิติ

การแสกนคน เป็น Feature หลักที่เป็นจุดเด่นของ Otter Lite ที่อาจไม่ค่อยพบเห็นในเครื่องแสกนทั่วไป เพราะเป็นระบบที่ออกแบบมาสำหรับแสกนคนโดยเฉพาะ แสกนคนทั้งตัวใช้เวลาเพียง 1-2 นาที
โดยที่รายละเอียดรอยยับของผ้า หรืการเก็บสีนั้นทำได้ค่อนข้างดี และด้วยอัลกอริทึมสำหรับแสกนคนโดยเฉพาะ ทำให้การแสกนผมนั้นทำได้ง่ายมากขึ้น

งานแสกนกลางแจ้ง มาถึงงานกลางแจ้งที่เครื่องแสกนหลายๆตัวนั้นอาจแพ้ทาง แต่กับ Otter Lite นั้นยังทำงานได้อย่างสบาย แนะนำให้ใช้การเชื่อมต่อแบบต่อ Wifi กับแล็ปท็อบ และสะท้อนหน้าจอ
มายังมือถือจะทำงานได้สะดวกมากขึ้น ล้อรถนี้แสกนกลางแจ้ง เวลาประมาณ 11 โมง ก็ยังแสกนได้อย่างลื่นไหลใช้เวลาแสกนประมาณ 1 นาที เก็บรายละเอียดได้ค่อนข้างครบถ้วน

วัตถุสีดำ มันวาว วัตถุสีดำหรือมันวาวนั้นถือว่าเป็นอีกหนึ่งศัตรูตัวฉกาจของเครื่องแสกน 3 มิติ แต่ Otter Lite นั้นยังถือว่ารอดอยู่ในการแสกนวัตถุสีดำ/มันวาว แต่หากเงามากๆ หรือสีทองนั้น
จะยังจับได้ไม่ดีนัก เช่นตัวอยางการแสกนรูปปั้นเซรามิกรูปแมวนี้ จะเห็นว่าตัวแมวที่เป็นสีดำนั้นสามารถแสกนได้ไม่มีปัญหา แต่ส่วนที่เป็นกระดิ่งสีทองนั้นยังแสกนได้ไม่ดี หากงานของคุณเป็นสีทองเงา
และต้องการแสกนด้วย Otter Lite อาจจะยังไม่แนะนำ

การแสกนแบบติดMarker Otter Lite นั้นยังรองรับการแสกนแบบติด Marker ด้วย หากแสกนงานที่มีความเรียบ หรือมีจุดอ้างอิงน้อย เพื่อป้องกัน Tracking Loss แม้ไม่ได้แม่นเท่าเครื่องระดับโปร
แต่ก็ช่วยให้แสกนวัตถุเรียบได้ดีขึ้น ตัวอย่างการแสกนแบบติด Marker แสกนหน้ารถมอเตอร์ไซค์ ช่วยให้แสกนได้ดีมากกว่าแบบไม่ติด Marker

การจักการไฟล์แสกน ทำได้ง่ายมากด้วยโปแกรม Creality Scan 4 โปรแกรมอัพเกรดเวอร์ชันล่าสุดของ Creality ที่ปรับให้ใช้งานง่าย แสดงการทำงานเป็นระบบขั้นตอนมากขึ้นกว่าเวอร์ชันก่อน
หากเป็นมือใหม่สามารถใช้ฟังก์ชัน One-Click Process ได้เพื่อประมวลผลไฟล์แบบอัตโนมัติในทีเดียวได้เลย แต่หากใครที่ใช้งานแสกนเนอร์เป็นอยู่แล้วอยากแก้ไขด้วยตัวเองก็สามารถทำได้
มีฟังก์ชันการใช้งานครบครันทั้งด้านการ Generate ไฟล์และการตัดแต่งแก้ไขไฟล์แสกน

ต่อยอดงานสร้างสรรค์จากไฟล์แสกน ตัวอย่างการนำไฟล์แสกนมาต่อยอดสร้างสรรค์ผลงานด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติโดยไฟล์ที่ใช้เป็นไฟล์ที่จบงานมาจากการแสกนเลย ไม่ได้นำเข้าไปแก้ไข
ในโปรแกรมปั้น 3 มิติแต่อย่างใด ถือว่าทำงานได้อย่างลื่นไหลและผลลัพธ์งานพิมพ์ที่ได้นั้นก็ค่อนข้างดีเลยทีเดียว