1. เมื่อความแม่นยำ และแสง Laser UV = หัวใจของการ Marking
ในโลกของการผลิตยุคใหม่ การทำเครื่องหมาย หรือสัญลักษณ์ ตัวอักษรต่างๆ บนผลิตภัณฑ์ได้กลายเป็นมากกว่าแค่การติดป้ายชื่อ แต่มันคือหัวใจสำคัญของการ ตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) การยืนยันคุณภาพ การสร้างแบรนด์ และแม้แต่การสร้างความแตกต่างระหว่างของแท้กับสินค้าปลอม ไม่ว่าจะเป็นวันที่ผลิต, รหัสซีเรียลนัมเบอร์(S/N), โลโก้บริษัท หรือแม้แต่คิวอาร์โค้ดขนาดจิ๋ว ทุกรายละเอียดมีความหมาย และต้องติดอยู่กับสินค้าได้อย่างถาวรหรือนานที่สุด
แต่ในขณะที่อุตสาหกรรมส่วนใหญ่ยังคงพึ่งพาวิธีการมาร์คกิ้ง “Marking” แบบดั้งเดิม เช่น การพิมพ์สกรีน การแกะสลักด้วยเครื่องจักร หรือแม้กระทั่งเลเซอร์มาร์คกิ้งแบบทั่วไป ก็มีวัสดุบางประเภทที่แตกต่างออกไป วัสดุเหล่านี้มักจะ บอบบางเป็นพิเศษ ไวต่อความร้อนสูง หรือต้องการความละเอียดระดับไมโครเมตร โดยที่วิธีการแบบทั่วไปนั้นไม่สามารถทำได้ การใช้ความร้อนที่มากเกินไปอาจทำให้วัสดุเสียหาย บิดเบี้ยว หรือเปลี่ยนสีไปจากเดิม ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่สำคัญต้องกลายเป็นของที่ใช้ไม่ได้ในทันที เกิดความเสียหายได้

จากภาพด้านบนจะเห็นว่าการยิ่งเลเซอร์ลงบนเนื้อพลาสติกนั้น ถ้าจาก UV Laser ผิวสวยกว่าคม และเนื้อพลาสติกจะไม่ละลาย ส่วนถ้าภาพด้านล่างจะมาจากเครื่อง Fiber Laser เนื้อพลาสติกจะละลาย พลาสติกไหม้ นี่คือจุดที่ เทคโนโลยีเลเซอร์มาร์คกิ้งแบบ UV (UV Laser Marking Machine) เข้ามาพลิกโฉมวงการ ด้วยคุณสมบัติเด่นที่เรียกว่า “แสงเย็น” (Cold Marking) เลเซอร์ UV ไม่ได้สร้างลวดลายด้วยความร้อนสูงเหมือนเลเซอร์ชนิดอื่น แต่ใช้พลังงานแสงอัลตราไวโอเลตที่มีความยาวคลื่นสั้นกว่า และโฟตอนที่ทรงพลังกว่าในการสลายพันธะโมเลกุลของวัสดุโดยตรง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงบนพื้นผิวโดยแทบไม่มีผลกระทบจากความร้อนเลย คุณสมบัติอันเป็นเอกลักษณ์นี้เองที่ทำให้ UV Laser Marking Machine กลายเป็นทางเลือกใหม่ที่เหนือกว่า และเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับวัสดุที่ละเอียดอ่อนและงานที่ต้องการความแม่นยำขั้นสูงสุด อย่างเช่น เนื้ออะโลหะต่างๆ
2. Laser Marking Machine มีกี่แบบ กี่ชนิด?
ส่วนนี้จะให้ภาพรวมของเทคโนโลยีเลเซอร์มาร์คกิ้งที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรม โดยเน้นที่หลักการทำงาน และประเภทของเลเซอร์ที่แตกต่างกัน เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจความหลากหลายก่อนที่จะเจาะลึกถึง UV Laser โดยเฉพาะ :
- หลักการทำงานพื้นฐานของ Laser Marking: อธิบายสั้นๆ ว่าเลเซอร์มาร์คกิ้งทำงานอย่างไร กล่าวง่ายๆ คือลำแสงของเลเซอร์ทำปฏิกิริยากับพื้นผิววัสดุ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสี, การแกะสลัก, หรือการลอกผิว เป็นต้น
- ประเภทของ Laser Marking Machine ที่นิยมกันในท้องตลาดตอนนี้ :
-
- Fiber Laser Marking Machine (ไฟเบอร์เลเซอร์) :
- หลักการ : ใช้เส้นใยแก้วนำแสง (optical fiber) ในการผลิต และขยายลำแสงเลเซอร์
- ความยาวคลื่น : โดยทั่วไปประมาณ 780nm-2,200nm
- คุณสมบัติเด่น : ให้กำลังสูง, ประหยัดพลังงาน, อายุการใช้งานยาวนาน เหมาะกับการมาร์คกิ้งบนผิวของโลหะเกือบทุกชนิด และได้กับพลาสติกบางชนิด ย้ำบางพลาสติกบางชนิดเท่านั้น
- ข้อจำกัด: เกิดความร้อนสูง (Thermal Effect) ซึ่งอาจไม่เหมาะกับวัสดุที่ไวต่อความร้อนสูง อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนสี หรือการบวมบนพลาสติกบางประเภท
- CO2 Laser Marking Machine (เลเซอร์ CO2) :
- หลักการ: ใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นตัวกลางในการผลิตลำแสงเลเซอร์
- ความยาวคลื่น: โดยทั่วไป 10.6 µm หรือ 9.3 µm (อินฟราเรดไกล)
- คุณสมบัติเด่น: เหมาะกับการมาร์ควัสดุที่ไม่ใช่โลหะส่วนใหญ่ เช่น ไม้, หนัง, กระดาษ, แก้ว, ผ้า, พลาสติกบางชนิด, อะคริลิค
- ข้อจำกัด: ไม่เหมาะกับโลหะ, ยังคงมีผลกระทบจากความร้อนสูงบนวัสดุบางชนิด ทำให้เกิดรอยไหม้หรือขอบที่ไม่เรียบ
- UV Laser Marking Machine (เลเซอร์ UV) :
- Fiber Laser Marking Machine (ไฟเบอร์เลเซอร์) :
- หลักการ: ใช้คริสตัลพิเศษในการแปลงความยาวคลื่นของเลเซอร์ให้เป็นแสงอัลตราไวโอเลต (UV) ที่มีความยาวคลื่นสั้นกว่า (เช่น 355 nm)
- ความยาวคลื่น: โดยทั่วไปประมาณ 355 nm (อัลตราไวโอเลต)
- คุณสมบัติเด่น: “Cold Marking” (การมาร์คแบบเย็น) หรือ Photo-ablation (การระเหิดด้วยแสง), มีขนาดจุดโฟกัสเล็กมาก, สร้างรอยมาร์คที่คมชัดและละเอียดสูง, แทบไม่สร้างความร้อนบนวัสดุ
- ข้อจำกัด: กำลังขับเลเซอร์ต่ำกว่า Fiber Laser, ราคาสูงกว่า, ความเร็วในการมาร์คอาจช้ากว่าในบางงานเมื่อเทียบกับ Fiber Laser ที่มีกำลังสูง
-
3. เลเซอร์แต่ละชนิดเหมาะสมกับงานลักษณะแบบไหนบ้าง ?
เมื่อเข้าใจถึงหลักการทำงานและประเภทของเครื่องเลเซอร์มาร์คกิ้งแต่ละแบบแล้ว คำถามสำคัญต่อไปคือ “เลเซอร์ชนิดไหนเหมาะกับงานของเราที่สุด?” การเลือกเทคโนโลยีที่ถูกต้องไม่ใช่แค่เรื่องของประสิทธิภาพ แต่ยังรวมถึงการรักษาคุณภาพของชิ้นงาน การประหยัดต้นทุน และการได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการอย่างแท้จริง ซึ่งเลเซอร์แต่ละชนิดก็มีจุดเด่นและข้อจำกัดที่ทำให้มันเหมาะสมกับวัสดุและอุตสาหกรรมที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อต้องเจอกับวัสดุที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ นี่คือการแยกแยะอย่างละเอียดเพื่อให้คุณเห็นภาพว่าเลเซอร์แต่ละประเภทเหมาะกับงานลักษณะใด และทำไม UV Laser จึงเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นสำหรับวัสดุที่ละเอียดอ่อน
- Fiber Laser : เหมาะสำหรับ
- โลหะทุกชนิด (เหล็ก, สเตนเลส, อลูมิเนียม, ทองเหลือง, ทองคำ, เงิน)
- พลาสติกวิศวกรรมบางชนิดที่มีสารเติมแต่งเพื่อดูดซับแสงอินฟราเรด
- ชิ้นส่วนยานยนต์, เครื่องมือ, เครื่องจักร, อุปกรณ์ไฟฟ้า
- CO2 Laser : เหมาะสำหรับ
- วัสดุอินทรีย์ : ไม้, กระดาษ, หนัง, ผ้า, ยาง
- วัสดุอนินทรีย์ : แก้ว, เซรามิก (บางชนิด), อะคริลิค, หิน, กระเบื้อง
- บรรจุภัณฑ์, งานศิลปะ, ของตกแต่ง
- UV Laser : สำหรับวัสดุละเอียดอ่อน และงานที่ต้องการความแม่นยำสูงสุด
- หลักการ “Cold Marking” : อธิบายเพิ่มเติมว่า UV Laser ทำงานโดยการสลายพันธะโมเลกุลของวัสดุโดยตรงด้วยพลังงานโฟตอนสูง (Photo-ablation) แทนที่จะเป็นการหลอมหรือระเหยด้วยความร้อน
- ทำไมจึงเหมาะกับวัสดุละเอียดอ่อน :
- พลาสติกที่ไวต่อความร้อน : เช่น PP, PE, PVC, PET, PA, ABS ที่จะเปลี่ยนสี, บวม, หรือเสียรูปเมื่อโดนความร้อนสูงจากเลเซอร์ชนิดอื่น
- อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเซมิคอนดักเตอร์ : การมาร์คบนแผงวงจร PCB, ชิป IC, ตัวเก็บประจุ, ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กที่ต้องการความแม่นยำสูงและห้ามเกิดความเสียหายจากความร้อน
- อุปกรณ์การแพทย์ และเภสัชกรรม : การมาร์คบนท่อสวน, อุปกรณ์ผ่าตัด, บรรจุภัณฑ์ยา, ขวดวัคซีนที่ต้องการความสะอาดสูง, ห้ามมีการปนเปื้อน หรือการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของวัสดุ
- แก้วและเซรามิก : การมาร์คบนขวดแก้ว, เลนส์, เซรามิก โดยไม่ทำให้เกิดรอยร้าวหรือความเสียหายที่มองเห็นได้
- วัสดุที่ต้องการความคมชัดสูงสุด : เช่น การมาร์ค QR Code ขนาดเล็กมาก, Barcode ที่ต้องการความแม่นยำในการอ่านสูง
- การมาร์คสีบนวัสดุบางชนิด : UV Laser สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนสีบนวัสดุบางชนิด (เช่น พลาสติกบางประเภท) โดยไม่ทำให้เกิดการแกะสลักลึก ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่สวยงามและแตกต่าง






4. แนะนำการใช้งาน UV Laser Marking Machine
ด้วยคุณสมบัติเฉพาะตัวของ “แสงเย็น” และความสามารถในการสร้างรอยมาร์คที่คมชัดระดับไมโครเมตร ทำให้ UV Laser Marking Machine ไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องมือ แต่เป็นโซลูชันที่จำเป็นในหลายอุตสาหกรรมที่ต้องการความแม่นยำสูงสุดและต้องทำงานกับวัสดุที่บอบบาง บทความนี้จะเจาะลึกถึงการประยุกต์ใช้งานหลักๆ ที่ UV Laser เข้าไปมีบทบาทสำคัญอย่างเช่น
4.1) อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ : ความละเอียดระดับชิปและความทนทานบนวงจร

อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์เป็นหนึ่งในผู้ได้รับประโยชน์สูงสุดจาก UV Laser Marking Machine ด้วยชิ้นส่วนที่มีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ และความต้องการในการทำเครื่องหมายข้อมูลที่ซับซ้อน ทำให้เลเซอร์ UV เป็นตัวเลือกที่ไร้เทียมทาน:
- การมาร์คบนแผงวงจรพิมพ์ (PCB – Printed Circuit Board) : การทำเครื่องหมายรหัสซีเรียล (Serial Number), บาร์โค้ด (Barcode), รหัส QR Code หรือโลโก้บน PCB เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการตรวจสอบย้อนกลับและการควบคุมคุณภาพ UV Laser สามารถมาร์คบนพื้นผิว PCB ได้อย่างแม่นยำ โดยไม่ทำให้เกิดความเสียหายต่อลายวงจรทองแดงหรือส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ที่บอบบางรอบข้าง ความร้อนที่ต่ำมากทำให้ไม่มีความเสี่ยงต่อการหลอมละลายหรือการเปลี่ยนรูปของแผงวงจร
- การมาร์คบนชิปวงจรรวม (IC – Integrated Circuit) และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็ก : ชิป IC มีขนาดเล็กมากและมีความไวต่อความร้อนสูง การใช้เลเซอร์ชนิดอื่นอาจทำให้โครงสร้างภายในเสียหายได้ แต่ UV Laser สามารถมาร์ครหัสรุ่น, ผู้ผลิต, วันที่ผลิต หรือโลโก้ได้อย่างคมชัดบนพื้นผิวพลาสติก เซรามิก หรือโลหะของชิป โดยไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงาน
- การมาร์คบนสายไฟและสายเคเบิล : การระบุรหัสสินค้า, มาตรฐาน, หรือข้อมูลจำเพาะบนสายไฟและสายเคเบิลที่มีฉนวนพลาสติกหรือยางเป็นสิ่งสำคัญ เลเซอร์ UV สามารถมาร์คได้อย่างชัดเจนโดยไม่ทำให้ฉนวนไหม้เกรียมหรือเสียรูปทรง
- ข้อดี : ไม่สร้างความเสียหายต่อวงจรภายในหรือชิ้นส่วนที่ไวต่อความร้อน, รอยมาร์คถาวรและทนทานต่อสารเคมี, ความชื้น และการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ, ช่วยให้การตรวจสอบย้อนกลับเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
4.2) อุตสาหกรรมการแพทย์และเภสัชกรรม : ความสะอาดและมาตรฐานสูง

ในภาคส่วนที่ความปลอดภัยและสุขอนามัยเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด UV Laser Marking Machine ได้รับความไว้วางใจอย่างกว้างขวาง
- การมาร์คบนเครื่องมือแพทย์ และอุปกรณ์ผ่าตัด : ไม่ว่าจะเป็นมีดผ่าตัด, คีม, ท่อสวน, หรืออุปกรณ์วินิจฉัยโรคที่ทำจากสเตนเลสเกรดทางการแพทย์ (บางชนิด) หรือพลาสติกเกรดทางการแพทย์ UV Laser สามารถสร้างรอยมาร์คที่คมชัดและถาวร โดยไม่ก่อให้เกิดการปนเปื้อนหรือร่องรอยที่จะกักเก็บเชื้อโรค สิ่งนี้สำคัญอย่างยิ่งในกระบวนการฆ่าเชื้อ (Sterilization) ซ้ำหลายครั้ง
- การมาร์คบนบรรจุภัณฑ์ยา และเวชภัณฑ์ : การระบุวันที่ผลิต, วันหมดอายุ, หมายเลขล็อต (Lot Number), หรือรหัส QR Code บนขวดยา, แผงยา, หรือบรรจุภัณฑ์วัคซีน ด้วย UV Laser ทำให้ข้อมูลมีความชัดเจนและคงทนต่อการขีดข่วนหรือการสัมผัสสารเคมี โดยไม่ส่งผลกระทบต่อสารในบรรจุภัณฑ์
- ข้อดี : การมาร์คแบบสะอาด (Sterile Marking), ไม่ก่อให้เกิดการปนเปื้อนหรือเศษวัสดุจากการมาร์ค, รอยมาร์คทนทานต่อกระบวนการฆ่าเชื้อด้วยวิธีต่างๆ (เช่น Autoclave, Gamma Radiation), ช่วยให้การตรวจสอบย้อนกลับตามข้อกำหนดด้านกฎระเบียบทำได้ง่าย
4.3) อุตสาหกรรมพลาสติก และบรรจุภัณฑ์ : คมชัด ไร้รอยบวมหรือไหม้

สำหรับวัสดุพลาสติกที่หลากหลาย ซึ่งมักไวต่อความร้อน เลเซอร์ UV คือคำตอบที่ช่วยรักษาสภาพ และความสวยงามของผลิตภัณฑ์:
- การมาร์คบนฝาขวด, บรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง, และชิ้นส่วนพลาสติกขนาดเล็ก : พลาสติกบางประเภท เช่น PP, PE, PVC, PET, PA, ABS มักจะเกิดรอยบวม, คาร์บอนไนเซชั่น (การไหม้เป็นสีดำ), หรือการเปลี่ยนสีที่ไม่พึงประสงค์เมื่อโดนความร้อนสูงจากเลเซอร์ชนิดอื่น แต่ UV Laser สามารถสร้างรอยมาร์คที่คมชัด, สะอาดตา, และไม่มีผลกระทบด้านความร้อนต่อวัสดุ
- การสร้างรหัสข้อมูลบนบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม : การมาร์ควันที่, รหัสสินค้า บนบรรจุภัณฑ์พลาสติกหรือฟิล์ม ช่วยให้ข้อมูลคงอยู่ถาวรแม้จะสัมผัสกับความชื้นหรือการเสียดสี
- ข้อดี : ไม่เกิดการบวม, การไหม้, หรือการเปลี่ยนสีที่ไม่พึงประสงค์, รอยมาร์คคมชัดและมีความละเอียดสูง, ช่วยรักษาความสมบูรณ์และรูปลักษณ์ของผลิตภัณฑ์
4.4) อุตสาหกรรมแก้ว และคริสตัล

- การมาร์คโลโก้, ลวดลาย หรือรหัสบนขวดแก้ว, เลนส์, และผลิตภัณฑ์คริสตัล: เลเซอร์ UV สามารถสร้างรอยมาร์คที่ละเอียดอ่อนบนพื้นผิวแก้วหรือคริสตัล โดยไม่ทำให้เกิดรอยร้าว, รอยบิ่น, หรือ Micro-fracture (รอยร้าวขนาดเล็กที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าแต่สามารถพัฒนาไปสู่การแตกได้)
- ข้อดี: ไม่สร้างความเสียหายต่อโครงสร้างของแก้ว, รอยมาร์คสวยงามและละเอียด, เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความประณีตสูง เช่น เครื่องแก้วพรีเมียม, เลนส์ออพติคอล
กล่าวโดยสรุป UV Laser Marking Machine ไม่ได้เป็นเพียงแค่ทางเลือก แต่เป็น “คำตอบ” สำหรับอุตสาหกรรมที่ต้องการการมาร์คบนวัสดุที่ละเอียดอ่อนและงานที่ต้องการความแม่นยำสูง ด้วยหลักการทำงานแบบ “แสงเย็น” ทำให้สามารถรักษาสภาพของวัสดุ, เพิ่มคุณภาพของผลิตภัณฑ์, และตอบสนองความต้องการที่ซับซ้อนของโลกการผลิตในปัจจุบันได้อย่างสมบูรณ์แบบ
-
HotCamengraveCut
Creality Falcon A1 | เครื่องเลเซอร์ตัด และแกะสลักขนาด 10Watt ใช้งานง่าย
19,900.00 ฿ Select options This product has multiple variants. The options may be chosen on the product page
5. ตอนนี้ของทางร้านเรามีจำหน่วย UV Laser Marking :
UV Fiber Marker ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น “Cold Laser Marker” คือแกะสลักโดยไม่ทำให้ผิวไหม้ งานได้รายละเอียดดี คมชัดกว่าแบบทั่วๆไป สามารถแกะสลักพลาสติก แก้ว Crstal ไม้ ได้ อีกทั้งยังใช้แกะสลักโลหะได้ด้วยเช่นกัน
Ray Mark UV ใช้แสงที่ความยาวคลื่น 355nm โดยมีระบบหล่อเย็น Chiller แยกจากตัวเครื่องทำให้ยืดอายุการใช้งานตัวเครื่อง และบำรุงรักษาง่ายกว่า เพียงเติมน้ำเรื่อยๆ ต่างจากระบบพัดลมที่ประสิทธิภาพไม่เท่าระบบน้ำ
- รายละเอียด และ Feature สำคัญ
- ขนาดพื้นงานที่รองรับ 150x150mm.
- แหล่งกำเนิดแสงเป็น UV 355nm กำลัง 5Watt แกะสลักได้คมกว่าแบบธรรมดา
- ระบบหล่อเย็นด้วยน้ำ Chiller ทำให้ยืดอายุการใช้งานเครื่องได้นานกว่า
- มาพร้อม Software EZCAD
- รองรับไฟล์รูป BMP,JPG ,PNG
- รองรับวัสดุอโลหะ – Crystal, แก้ว, พลาสติก, แผ่นยาง, ไม้, หนัง
- อลูมิเนียม, อัลลอย, สแตนเลส, ทอง, เงิน, ทองแดง, ทองเหลือง, เหล็ก, หิน, และหินอ่อน ฯลฯ
- สามารถปรับระดับหัวเลเซอร์ สูง-ต่ำ ได้แบบดิจิตอลและมือหมุน
- Brand : Ray โดยคนไทย Print3Dd ได้รับความไว้วางใจจาก บริษัทระดับประเทศ รวมถึงองค์กรรัฐบาล และมหาวิทยาลัย
- สินค้ารับประกัน : 1ปี
หากท่านใดสนใจสามารถติดต่อสอบถามกับทางฝ่ายขายได้ทาง
Sales1 096-140-0420
Sales3 098-448-4676
E-mail : sales@print3dd.com
LINE SALES : @print3dd