รีวิว Sense 3D Scanner ข้อมูลเจาะลึกถึงการใช้งาน

5460178-23876516-thumbnail
สวัสดีทุกท่านครับ วันนี้ทาง Print3dd.com จะมารีวิวเครื่อง 3D Scanner หรือ สแกนเนอร์ 3 มิติ แบบมือจับชื่อ Sense 3D Scanner จากผู้ผลิต Cubify.com ทางฝั่งUSA กันนะครับ

ต้องเกรินก่อนว่า Sense ถือว่าเป็น 3D Scanner แบบมือถือราคาถูกตัวแรกของโลกเลยก็ว่าได้ หากไม่รวมกับ Scanner รุ่นที่ใช้วงการอุตสาหกรรมอย่าง Artech ที่ราคาตีเป็นเงินไทยเกือบล้านบาท Sense จึงเป็นสแกนเนอร์ราคาถูกไปโดยปริยาย หากเทียบคุณภาพแล้วถือว่ามีความคลาดเคลื่อนในหน่วยมิลลิเมตร เทียบกับตัวราคาหลักล้านที่ผิดพลาดในหน่อยไมครอน หลังจากการใช้งานมาระยะนึง ผลที่ได้เป็นที่น่าพอใจครับ คิดว่าหลายๆน่าจะไปใช้ต่อยอดกับธุรกิจของตัวเอง หรือ เอาไว้ใช้เล่นเป็นงานอดิเรกได้

1st Time Use Scan


แกะกล่อง


ตอนแรกที่ได้เห็นกล่องมีขนาดเล็กและเบาอย่างน่าตกใจครับ หนักเพียง 1 กิโลกว่าๆเท่านั้น ในกล่องมีเพียงกระดาษแผ่นเดียว กับเครื่องครับ(ไม่มี CD หรืออย่างอื่นเลย) โดยในกระดาษจะระบุว่าให้ไปลงทะเบียนใน www.cubify.com เผื่อไปดาว์โหลดโปรแกรม และเพื่อลงทะเบียนโดยใช้ Serial Number ของเครื่อง เมื่อลงทะเบียนเราจะได้โค้ด 4 หลักมาเพื่อไว้ใช้งาน โค้ดนี้จะเป็นค่าเฉพาะของเครื่องนั้นๆครับ

ตัวเครื่องหลักๆมีกล้อง 3 อัน อันแรกลักษณะปล่อยแสง IR(infrared), กล้องจับ IR และกล้องสำหรับถ่ายภาพครับ อีกส่วนด้านล่างของเครื่องมีเกลียวไว้สามารถใช้กับขาตั้งกล่องได้


การใช้งาน


หลักการทำงานของเครื่องนี้คือ ปล่อยแสงอินฟราเรด และใช้กล้องอีก 2 ตัวตรวจจับภาพและแสงสะท้อนอินฟราเรด ทำให้ได้ภาพที่เป็นมิติ โดยผู้ใช้ต้องวาดเครื่องนี้ไปมาตามวัตถุที่ต้องการสแกน (ควรจะลากขึ้น-ลงไปมา และ เวียนให้ครบตัววัตถุที่ต้องการ สแกน) โปรแกรมจะทำการคำนวณภาพสามมิติที่ได้ และทำการต่อภาพไปเรื่อยๆ(คล้ายหลักการต่อภาพ Panorama) ดังนั้นเครื่องคอมที่ใช้ควรจะมีการ์ดจอ Graphic ดีๆหน่อย (ผู้รีวิวใช้การ์ดจอที่ซื้อมาแล้ว 3ปี ก็ยังใช้ได้ แต่พอมาใช้กับ Notebook รุ่นถูกๆแล้วเครื่องประมวลผลไม่ทัน)

Sense 3D Scanner
โปรแกรมจะมีการบอกระยะที่ถูกต้องในการสแกน ว่าเราอยู่ในระยะพอดี(สีฟ้า) หรือ ห่าง-ใกล้ เกินไป(สีแดง) หากใช้งานจริงทำเพียง 6-7 ครั้งก็เริ่มทำเป็นแล้ว (ไม่ได้ยากอย่างที่คิด) เมื่อได้ชิ้นงานแล้ว จะเป็นรูป 3D ดิบ เราสามารถ Crop เฉพาะส่วนที่ต้องการได้ โดยมีเมนูคร่าวๆดังนี้ Erase (ใช้ในการลบส่วนที่ไม่ต้องการเป็นพื้นที่) Solidify (ปิดหรือเติมชิ้นงานในส่วนที่สแกนไม่ถึง ทำให้ชิ้นงานเป็นก้อนปิด เพื่อที่สามารถจะเอาไปพิมพ์โดย 3D Printer ต่อได้) Smooth(ทำให้ชิ้นงานเรียบมากขึ้น) Trim(ตัดชิ้นงานในแนวระนาบ) Touch Up(เครื่องมือทำให้สีเรียบ)

เมื่อเราทำเสร็จแบบ All in one ในโปรแกรม Sense แล้วเราก็จะสามารถ Save งานของเราออกมาในรูปแบบ .STL ได้ครับ โดยเราสามารถนำไฟล์นี้ไปทำงานต่อใน 3D program หรือ ใช้สั่งพิมพ์ชิ้นงานได้เลย


การพิมพ์ชิ้นงานที่ได้จาก Sense


เราสามารถเปิดชิ้นงาน .STL ได้ทั้งใน ReplicatorG หรือ Makeware(กรณีใช้เครื่อง Flashforge Creator หรือ MakerBot) หรือ โปรแกรม 3D printing อื่นๆก็ได้ครับแล้วแต่คนใช้ 3D Printer ยี่ห้ออะไร

งานที่เปิดขึ้นมาจะใหญ่มากครับ เช่นถ้าสแกนคน ก็จะได้ Scale คนจริงๆซึ่งต้องมาย่อขนาดในโปรแกรมอีกรอบ สั่งพิมพ์ชิ้นงานได้เลยครับ แล้วแต่เรากำหนดขนาดและสีของชิ้นงาน ตัวอย่างที่ผมนำมาแสดงนี้เป็น PLA สีขาว พิมพ์แบบกลวง(infill 0%)

Sense 3D scanner object

พิมพ์โมเดล คน 3มิติ


ไฟล์ตัวอย่างงาน



ข้อดี

1. ราคาถูก และ ไม่ต้องซื้อโปรแกรมใดๆอีก เนื่องจากแถมโปรแกรมมาให้อยู่แล้ว
2. หากเทียบกับตัวอื่นแล้วถือว่าใช้งานง่ายกว่า
3. Edit งาน 3D ภายในงโปรแกรมของ Sense ได้เลยไม่จำเป็นต้องมีโปรแกรมตัวอื่น (ตัวเดียวจบทั้ง แต่งภาย ตัดภาพ พร้อม Save มาเป็น .STL)
4. ประกันศูนย์ 1 ปี (หากซื้อกับ Print3Dd.com)
5. คุณภาพชิ้นงานดีกว่าใช้ Kinect

ข้อเสีย

1. สายที่ให้มายาวแค่ 2 เมตร ใช้งานจริงควรจะต้องซื้อสาย USB Extended เพิ่ม
2. ไม่เหมาะจะ Scan วัตถุชิ้นเล็กๆ (Digitizer ของ Makerbot จะเหมาะกับวัตถุเล็กๆมากกว่า)

สรุป

ด้วยราคาที่สามารถเอื้อมถึง งานที่ได้ไม่ขี้เหร่ แต่ก็ไม่ได้ละเอียดขนาดตัวโปรที่ใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรม แต่จัดว่าสแกนงานออกมาได้ค่อนข้างดีงานที่ได้ออกมาสามารถทำออกมาขาย หรือ ใช้ประกอบอาชีพได้ ยิ่งใช้ร่วมกับ 3D printer ด้วยแล้วยิ่งตอบโจทย์ในใจหลายๆคนที่มองหาเครื่อง Scanner ที่ดีๆสักตัวเพื่อพิมพ์งานออกมาขาย Print3dd.com ว่าเครื่องที่ถือว่ามีความคุ้มค่าสมราคาครับ

**สังเกตุดูดีๆใช้ Sense 3D Scanner ครับ (0:46)**