Review : พาส่อง FreeScan Combo จาก Shining3D กับ “4 Scanning Modes” ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ที่หลากหลาย

Review : พาส่อง FreeScan Combo จาก Shining3D กับ “4 Scanning Modes” ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ที่หลากหลาย

พูดถึง 3D Scanner ในยุคนี้ที่มีการสแกนที่หลากหลาย และการตอบโจทย์แต่ละสายงาน ย่อมมีหลายตัวที่ถูกพูดถึงกันบ่อย
แต่มีไม่มากนักที่ตอบโจทย์ในทุกหมวดหมู่ ทั้งการสแกนที่รวดเร็ว ความละเอียดที่สูงถึง 20Micron รวมถึงการสแกนในรู หรือหลุมได้
และอีกส่วนที่ขาดไม่ได้สำหรับสาย สแกนร่างกาย กับหมวด IR Mode ที่สามารถสแกนได้ถึงเส้นผม และนอกจากนี้ยังสามารถสแกนได้ในที่มีแสงมาก
โดยวันนี้เราจะพาไปส่อง หรือไปดูกันว่า แต่ละโหมดมีการทำงานอย่างไร และใช้งานอย่างไร

FreeScan Combo 3D Scanner Hybrid ที่มีแหล่งกำเนิดแสงระหว่าง Blue Laser และ Infrared VCSEL
ทำให้มีโหมด Multifunction ที่สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้ใช้ และฉีกทุกกฏเกณฑ์ของเครื่องสแกน นอกจากนี้ยังความแม่นยำสูงถึง 0.02mm นับว่าเป็นรุ่นละเอียดมากๆ
เมื่อเทียบกับหลายๆรุ่นที่มีราคาสูงกว่า และการตอบโจทย์ของผู้ใช้ที่ไม่เท่า จนทำให้ FreeScan ตอบโจทย์งานสแกนงานใหญ่ และ เร็ว สแกนเนอร์เพื่องานทางวิศวกรรม, Reverse Engineer, งานประติมากรรม งานเชิงการแพทย์, งานที่มีขนาดใหญ่ – ขนาดกลาง

4 Scanning Modes
Laser Cross กากบาท 26 แถบที่รองรับการสแกนได้ทุกอย่าง
Laser parallel 7 แถบสำหรับการสแกนที่ต้องความละเอียดสูง
Laser Single 1 Line เพื่อสแกนข้อมูลที่เป็นรูหรือหลุมลึก
Infrared Light & Large FOV สำหรับสแกนแบบ Out Door และการมองเห็นที่ใหญ่ขึ้น



Laser Cross กากบาท 26 แถบ
เป็นแสง Blue Laser ที่ทำการ Cross หรือไขว้กันเป็นจำนวนมากถึง 26แถบ เรียกได้ว่า สแกนช๊อตเดียวได้ใหญ่มากๆ
เนื่องจากโหมดนี้เน้นการสแกนที่รวดเร็ว เพียงแค่ติด Marker ในส่วนเรื่องความละเอียดก็ไม่แพ้ใครเหมือนกัน เพราะทุกโหมดเลเซอร์จะมีความละเอียด 0.02mm หรือ 20Micron


Laser parallel 7 แถบ
เป็นแสง Blue Laser ที่เรียงกันเป็นชั้นๆ เรียกว่าเป็นโหมดที่ต้องการความละเอียดที่สูง สามารถใช้ผสมผสานกับโหมด Laser Crossได้เลย


Laser Single 1 Line
เป็นแสง Blue Laser ที่ทำการยิงแสงออกมาเพียงเส้นเดียวในการสแกน ซึ่งโหมดนี้ เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการวัดความลึกของรูปโมเดล อย่างเช่นขนาดของ รูน๊อต หลุมลึก
ซึ่ง 3D Scanner ทั่วไปไม่สามารถทำได้ ถ้าทำได้ก็จะเป็นแบบ ไม่สมบูรณ์ทำให้ต้องมีการนำไฟล์ไปทำต่ออีกหลายขั้นตอน



Infrared Scan / IR Mode
จะใช้เป็นแสง Infrared ในการสแกน ทำให้สแกนกลางแจ้งได้ รวมถึงไฟล์ที่ได้ก็ออกมาดูดี รวมถึงโหมดนี้ไม่ต้องใช้ Marker ในการติดที่โมเดล รวมถึงยังมีโหมดสำหรับการสแกนคนและวัตถุ
การสแกนคนจะมีความพิเศษที่ใส่เพิ่มเข้ามา ก็คือการสแกนเก็บเส้นผม ทำให้ง่ายต่อการทำงาน เพราะหลายๆสแกนเนอร์ไม่สามารถสแกนเส้นผมได้ บางครั้งการสแกนโมเดลคน อาจจะทำให้ผู้สแกนจำเป็นต้องไปทำผมเพิ่ม
หรืออาจจะต้องซื้อโมเดลผม ที่มีขายตามเว็ปขายไฟล์ 3D เพื่อนำมาใส่ให้สมบูรณขึ้น ส่วนเรื่องโหมดการสแกน Object ก็อย่างที่รู้กันว่าสามารถใช้ได้ทุกชิ้นส่วนแบบเดิม

ข้อดีและข้อเสีย
หลังจากได้ลองเล่นแล้วรู้สึกได้ว่ามีข้อดีมากกว่าข้อเสียสำหรับการใช้งานโดยข้อเสียมีอยู่หลักๆ 2อย่าง
1 ไม่สามารถสแกนประเภทเงาสท้อนได้ แต่ต้องเข้าใจว่า เทคโนโลยี 3D Scanner ปัจจุบันนี้การสแกนแบบ เงาสะท้อนถือว่ายังเป็นข้อจำกัดอยู่ต่อให้เครื่องสแกนราคาหลสยล้านก็ตาม
2 ขนาดและน้ำหนักที่ไม่ค่อยสมส่วน ต้องยอมรับว่าขนาดน้ำหนัก 620g ถือว่าไม่หนัก ไม่ว่าจะเป็นการถือที่นาน หรือไม่นาน แต่ด้วยลักษณะการจับของเครื่องสแกนที่จะต้องใช้นิ้วมือในการจับ
และใช้ด้านอุ้งมือในการประครอง เมื่อใช้งานเป็นเวลานาน อาจจะทำให้มันการเกร็งและเมื่อยได้ และทำ FreeScan Combo 3D Scanner Hybrid ของเราหลุดมือได้ แต่ปัญหานี้ยังได้รับการแก้ไข เนื่องจากตัวสแกนเนอร์จะมีสายคล้องข้อมือมาให้ด้วย
ทำให้จบปัญหานี้ออกไป
ในส่วนของข้อดีนั้นต้องอธิบายเลยว่า มีมากจริงๆ จึงขอสรุปแบบสั้นๆง่ายๆ คือ
ดีมาก ทั้งการสแกน ในหลายๆโหมด และทุกโหมด Laser มีการใช้งานผสมผสานกันได้โดยไม่ต้องหยุดการทำงาน รวมถึงการสแกนไฟล์ที่ได้มา เป็นไฟล์ที่มีความละเอียดที่สูงมากๆ การสแกนสีดำที่เคยเป็นข้อจำกัด นั้นตัดทิ้งไปได้เลยเพราะ FreeScan Combo สแกนได้ทุกอย่าง
แม้ประทั่งรู และหลุมลึก ใช่ฟังไม่ผิด ซึ่งเครื่องสแกนหลายๆรุ่นในท้องตลาดที่มีราคาสูงๆยังไม่สามารถทำได้ และด้วยโปรแกรมการใช้งานที่ฉลาด จนทำให้สามารถจบ Process ในโปรแกรมได้เลย แทบไม่ต้องไปทำในที่อื่นต่อ หรือหากอยากทำในที่อื่นต่อก็แนะนำโปรแกรม Solid Edge
ที่แถมมากับทางเครื่อง ซึ่งเป็นรูปแบบของ Shining 3D รับรองว่าคุ้ม